“บินไทย”จ่อนัดถกนกแอร์ เล็งไม่พิจารณาใส่เงินเพิ่มทุน
“การบินไทย” เตรียมนัดหารือ “นกแอร์” พิจารณาขอเพิ่มทุน 2.2 พันล้านบาท ชี้พร้อมโหวตสนับสนุน หากมีเหตุผลจำเป็นต้องเพิ่มทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจ เผยอาจไม่ใส่เงินเพิ่มทุนให้
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน มูลค่ารวมไม่เกิน 2,220.36 ล้านบาท โดยระบุว่า การบินไทยในฐานะผู้ถือหุ้นของสายการบินนกแอร์ ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการเพิ่มทุนในครั้งนี้หรือไม่ เนื่องจากต้องการหารือร่วมกับสายการบินนกแอร์ ถึงสาเหตุของการตัดสินใจเพิ่มทุนครั้งนี้ รวมถึงขอทราบแผนธุรกิจที่นกแอร์จะนำเงินทุนดังกล่าวไปจัดใช้
“การที่บริษัทจะเพิ่มทุนต้องดูว่าทำไมต้องเพิ่มทุน เพราะมีสารพัดปัจจัยทั้งเรื่องเอาเงินไปลงทุนโครงการ หรือทำธุรกิจส่วนอื่นๆ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของนกแอร์ที่จะต้องพิจารณาเหตุผล โดยตัวบริษัทนกแอร์เองเขาก็มองว่าต้องเพิ่มทุน เพื่อเอาเงินไปใช้ประโยชน์ ส่วนการบินไทยในฐานะผู้ถือหุ้น ก็ต้องรอฟังนกแอร์ก่อน ว่าทำไมต้องเพิ่มทุน ถ้ามีเหตุผลเราก็ยกมือโหวตการเพิ่มทุนของเขา แต่เราก็ไม่มีเงินเพิ่มให้เขา สรุปคือเรื่องนี้เราต้องคุยรายละเอียดก่อน”นายสุเมธ กล่าว
ทั้งนี้นายวุฒิภูมิ จุฬางกูรประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัททั้งในด้านการดำเนินงานและด้านเงินทุน โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ลดภาระหนี้สิน จัดหาและปรับปรุงฝูงบิน รวมถึงขยายเส้นทางและเครือข่ายการบิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทและจะทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2562 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นสายการบินนกแอร์ มีมติเห็นชอบให้เพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่ม ซึ่งส่งผลให้นกแอร์ได้รับเงินจากการเพิ่มทุน รวม 2,300 ล้านบาท แต่การเพิ่มทุนในครั้งดังกล่าวการบินไทยไม่ได้เพิ่มทุน เนื่องจากคณะกรรมการการบินไทยพิจารณาแล้วเล็งเห็นว่าแผนธุรกิจในอนาคตของสายการบินนกแอร์ไม่ชัดเจน และไม่สอดคล้องกับแผนของการบินไทย รวมทั้งจุดยืนการทำธุรกิจยังไม่มีความชัดเจน อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงหากการบินไทยตัดสินใจนำเงินเข้าไปลงทุนเพิ่ม
สำหรับ เหตุผลที่คณะกรรมการการบินไทยมีมติไม่เพิ่มทุนในสายการบินนกแอร์เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าแผนธุรกิจในอนาคตของนกแอร์ยังมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน และไม่สอดคล้องกับการบินไทย รวมทั้งจุดยืนในการทำธุรกิจของนกแอร์ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงหากการบินไทยตัดสินใจนำเงินเข้าไปลงทุนในนกแอร์
รวมทั้งครั้งนั้นการบินไทยได้พิจารณาถึงหลักเกณฑ์การลงทุนที่ต้องวิเคราะห์ดูผลตอบแทนในอนาคตด้วยว่าดีหรือไม่ โดยถ้าหากพิจารณาแล้วไม่เห็นโอกาสผลตอนแทนในอนาคตก็จะไม่ลงทุน เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงกับการบินไทยเองจึงทำให้การบินไทยตัดสินใจไม่เพิ่มทุนในสายการบินนกแอร์แม้ว่าจะใช้เงินเพียง 545 ล้านบาท แต่การบินไทยต้องมีการใช้เงินอย่างระมัดระวัง
ทั้งนี้ ผลดำเนินหากรวมผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 การบินไทยยังมีผลการดำเนินงานขาดทุนอยู่ที่ 10,782 ล้านบาท ขาดทุนสูงกว่าปีก่อน 7,875 ล้านบาท ในขณะที่ผลดำเนินงานไตรมาส 3 การบินไทยและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิ 4,680 ล้านบาท ขาดทุนสูงกว่าปีก่อน 994 ล้านบาท
โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากปัจจับลบที่ส่งผลต่อการเดินทางของผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า และการแข่งขันที่รุนแรงทำให้รายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าลดลงรวม 4,605 ล้านบาท หรือราว 10.4% ส่วนค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 47,858 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 4,029 ล้านบาท หรือราว 7.8% สาเหตุหลักเกิดจากค่าน้ำมันที่ลดลง 2,107 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามทิศทางราคาน้ำมันลดลง 12.2%