“น้ำตะวันออก”น่าเป็นห่วง วอน“นิคมฯ”ลดการใช้10%

“น้ำตะวันออก”น่าเป็นห่วง วอน“นิคมฯ”ลดการใช้10%

“กรมชลประทาน”แจงแผนใช้น้ำภาคตะวันออก วอนนิคมอุตสาหกรรมลดการใช้น้ำ 10% พร้อมควบคุมภาคเกษตรจำกัดการใช้ เร่งเตรียมเครื่องมือบรรเทาความเดือนร้อนช่วงแล้ง

นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9  กรมชลประทาน เปิดเผย ภายหลังจัดการประชุมชี้แจงสถานการณ์น้ำ ภาคตะวันออก และมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง รวมไปถึงการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 7 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมประมาณ 859 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 53% ของความจุอ่างเก็บน้ำ

ทั้งนี้ มีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 55 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมประมาณ 626 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 66% ของความจุอ่างเก็บน้ำ ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ 30 – 50% ของลำน้ำ

สำหรับมาตรการรองรับวิกฤตขาดแคลนน้ำในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง เช่น บริษัท EAST WATER ได้ดำเนินการเชื่อมท่อจากประแสร์ – คลองใหญ่ ไปยัง ประแสร์ – หนองปลาไหล เพื่อลดการสูญเสียน้ำ จัดหาแหล่งน้ำจากบ่อดินเอกชนเพิ่มเติมโดยสามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้กว่า 20 ล้าน ลบ.ม. 

นอกจากนี้ สถาบันน้ำและพลังงานเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากการนิคมอุตสาหกรรมลดการใช้น้ำลง 10% การประปาส่วนภูมิภาค ดำเนินการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวงเพื่อมาช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่จังหวัดชลบุรีได้กว่า 10 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ ในส่วนของกรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และรถบรรทุกน้ำ เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้งควบคุมการใช้น้ำของภาคเกษตรบริเวณฝายบ้านค่ายประมาณ 13 ล้าน ลบ.ม.

รวมถึง ยังได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย และให้มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ต่อเนื่องไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า

สำหรับแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง ปี 2562/63 ในพื้นที่ภาคตะวันออกที่ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด รวม 1,540 ล้าน ลบ.ม. แบ่งออกเป็นด้านอุปโภคบริโภคสัดส่วน 9% ของแผนจัดสรรน้ำฯ ด้านการเกษตรประมาณ 47% การรักษาระบบนิเวศ 18% อุตสาหกรรม 11% และด้านอื่นๆ 15%