เริ่มเห็นประมาณการกำไรบจ.ไทยปรับขึ้น ขณะสงบศึกการค้าไม่ขัดขวางการศก.ฟื้นตัว

เริ่มเห็นประมาณการกำไรบจ.ไทยปรับขึ้น ขณะสงบศึกการค้าไม่ขัดขวางการศก.ฟื้นตัว

สงครามการค้าเฟส 1 ช่วยคุมความเสี่ยงที่จะกระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก

สหรัฐฯ และจีนเห็นชอบร่างข้อตกลงการค้าเฟส 1 โดยทั้งคู่ได้ระงับแผนเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอีกฝ่ายในวันที่ 15 ธ.ค. ขณะที่ที่มีการปรับลดอัตราภาษีสินค้าที่เรียกเก็บไปแล้ว และจีนรับปากนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของเราที่ประเมินสงครามการค้าผ่านจุดที่ตึงเครียดสุดไปแล้ว ทั้งนี้การ “สงบศึกที่เกิดขึ้นแม้อาจเป็นเพียงระยะสั้น 1 ปี แต่จะส่งผลดีการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินขึ้น

ติดตามกำไรบจ.ไทย เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว คาดการณ์กำไรต่อหุ้นของบจ.ไทย (SET EPS) เริ่มปรับเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังปรับลดลงต่อเนื่องจากต้นปีราว 19% ทำให้หุ้นไทยมีโอกาสเริ่มเห็นการฟื้นตัว โดยกลุ่มที่ดึงดัชนีลงมากอย่างพลังงาน และธนาคาร คาดจะมีบทบาทในการฟื้นตัวรอบนี้ สำหรับธนาคารเราชอบ BBL โดยมองการเข้าซื้อธนาคารในประเทศอินโดนีเซีย จะช่วยเสริมกำไรราว 10% หรืออาจมากกว่านั้น การปรับลดลงของราคาหุ้นเป็นโอกาสซื้อ

ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้ 1) ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและลดราคา B10 ไม่กระทบต่อโรงกลั่น แต่จะกระทบต่อกลุ่มปั๊มน้ำมัน 2) ประชุมกนง. (18 ธ.ค.) คาดคงอัตราดอกเบี้ย เป็นบวกต่อการฟื้นตัวหุ้นกลุ่มธนาคาร 3) การพิจารณาค่าใช้จ่ายรายหัวประกันสังคม (17 ธ.ค.) ส่งผลบวกต่อ BCH, CHG, RJH แต่อาจมีแรงทำกำไรระยะสั้นได้ 4) ตัวเลขนักท่องเที่ยว (17 ธ.ค.)

หุ้นไทยไม่ใช่ขาขึ้น แต่มีโอกาสฟื้นตัวไปแถว 1700 จุด ภาพการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รวมถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก คล้ายคลึงกับปี 2555 เราคาดดัชนี MSCI Asia Ex Japan และหุ้นไทยจะแกว่งตัวขึ้นแต่ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยกลุ่มที่เกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายนอกที่ฟื้นตัวอย่างพลังงาน จะได้ปัจจัยบวก โดยเราชอบ TOP, SPRC, PTT, PTTEP

ภาพรวมกลยุทธ์ ยังให้น้ำหนักโอกาสฟื้นตัวจาก 1550-1565 จุด ต่อเนื่อง ขณะที่คงมุมมองบวกในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้า จากภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว ลุ้นลบภาพลบทางเทคนิคโดยกลับไปยืนเหนือ 1580 จุด ก่อนสิ้นเดือน และเราขอเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นเป็น 70% (จาก 50%) // หุ้นแนะนำวันนี้ VNT, BBL /เก็งกำไร  BDMS* (เป้า 26, ตัดขาดทุน 24), SPRC (เป้า 11, ตัดขาดทุน 9.80)

แนวรับ 1567 จุด / แนวต้าน : 15853 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นการลงทุน

ค่าเงินหยวน จีนกำหนดค่ากลางเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเป็น 6.9915 หยวนต่อเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการแข็งค่าของเงินหยวนเป็นบวกต่อเงินทุนไหลเข้าตลาดเอเซียและตลาดเกิดใหม่

BAM เข้าซื้อขายวันแรก เราเริ่มวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำซื้อ และราคาเป้าหมายที่ 25 บาท บริษัทเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ด้วยส่วนแบ่ง 47.3% คาดกำไรปี 62 ลดบง 28.5% หลังไม่มีรายรับรายการใหญ่พิเศษ แต่คาดกำไรกลับมาเพิ่ม 10% ในปี 63 แม้มีการเริ่มจ่ายภาษี 20% คาดอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 4.5%

SET50 คาดหุ้นเข้า SCCC, KKP /หุ้นออก BPP, DELTA

หุ้นที่ Laggard - หุ้นใน SET50 ที่ยังปรับขึ้นน้อยนับจากต้นปี ได้แก่ IRPC, IVL, DELTA, BH, PTTGC, BPP, KBANK, TMB, BANPU, CPN, TU, BBL, BJC, KTB, SCC, TRUE

 

ประเด็นติดตาม: 17 ธ.ค. พิจารณษคชจ.รายหัวประกันสังคม // 18 ธ.ค. – ประชุมกนง. // 20 ธ.ค. – FTSE ปรับน้ำหนักการลงทุนหุ้น

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)