กสทช.ปรับเงื่อนไข “ดาวเทียม”

กสทช.ปรับเงื่อนไข “ดาวเทียม”

ชี้แม้เปิดเสรีต่างชาติยันต้องมีบริษัท-เกตเวย์ในไทย

พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมการอนุญาตขอใช้สิทธิวงโคจรดาวเทียม หากเป็นดาวเทียมไทย เก็บค่าไฟล์ลิ่ง 2 ล้านบาท ต่อ 1 สิทธิ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีอยู่ที่ 0.25 % ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายจากการประกอบกิจการดาวเทียม ส่วนดาวเทียมต่างชาติเก็บค่าไฟล์ลิ่งเท่ากับดาวเทียมไทย แต่ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีแพงกว่า อยู่ที่ 3.2 % ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายจากการประกอบกิจการดาวเทียม

ส่วนเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติ เป็นเรื่องที่เวทีประชาพิจารณ์มีความเห็นมากที่สุด เพราะกังวลเรื่องความมั่นคง และการเข้ามาแข่งขันของต่างชาติมากเกินไป กสทช.จึงได้ปรับแก้รายละเอียด เพื่อลดปัญหาความกังวลด้านความมั่นคง จึงกำหนดดาวเทียมต่างชาติ ต้องมีการตั้งบริษัทในไทย และ มีโครงข่ายเกตเวย์ หรือ อัพลิงค์ สเตชั่น ในประเทศไทย เมื่อเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงภายในประเทศ ประเทศไทยจะสามารถปิดระบบได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับสถานทูตที่กำหนดให้ใช้ดาวเทียมต่างชาติที่ไม่มีบริษัทในประเทศไทยได้

นอกจากนี้ยังมีการปรับเงื่อนไขกิจการเรือที่แต่เดิมใช้ดาวเทียมต่างชาติได้เสรี เปลี่ยนเป็นกำหนดให้บริษัทดาวเทียมต่างชาติต้องมีสำนักงานในประเทศไทยด้วย ส่วนกิจการเพื่อให้บริการยูโซ่ กำหนดให้ใช้ดาวเทียมต่างชาติที่ไม่มีบริษัทในประเทศไทยได้ในกรณีให้บริการยูโซ่ไม่เกิน 1 ปี หากเกิน 1 ปี จำเป็นต้องเข้าตามระบบของกสทช.เพื่อปิดช่องว่างไม่ให้ต่างชาติเข้ามาด้วยการอ้างการให้บริการยูโซ่

“ในเวทีประชาพิจารณ์ มีเอกชนที่ให้ความสนใจในการใช้ดาวเทียมต่างชาติหลายบริษัท ขณะที่ภาครัฐและหน่วยงานความมั่นคงเป็นห่วงเรื่องความมั่นคง และการเข้ามาแข่งขันของต่างชาติ ขณะที่ไทยคมเองนั้น ตนเองมองว่า เรื่องการเปิดเสรีจะเป็นสิ่งที่ดี และทำให้มีความชัดเจนมากขึ้นในการสร้างดาวเทียม หลังจากที่ผ่านมาเขาเคยติดปัญหาความไม่ชัดเจนและไม่สามารถยิงดาวเทียมไทยคม 9 ได้ ส่วนเรื่องการแข่งขันต่างชาติอย่างเสรี ก็คล้ายกับธุรกิจสายการบิน ที่มีการแข่งขันเช่นกัน ” พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กล่าว