'ต่างชาติ' มั่นใจเศรษฐกิจไทย เหตุใด 'คนไทย' กลับไม่เชื่อ

'ต่างชาติ' มั่นใจเศรษฐกิจไทย เหตุใด 'คนไทย' กลับไม่เชื่อ

ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจหลายตัว บ่งบอกว่า "คนไทย" ขาดความเชื่อมั่นอย่างหนักในเศรษฐกิจของตัวเอง แต่ขณะที่ "ต่างชาติ" อย่างเอสแอนด์พี บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลก กลับปรับระดับความน่าเชื่อถือมากขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจหลายๆ ตัว บ่งชี้ว่า "คนไทย" ขาดความเชื่อมั่นอย่างหนักในเศรษฐกิจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค" หรือ "ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ" โดยในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ล่าสุดของเดือน พ.ย.2562 ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 มาอยู่ที่ระดับ 69.1 เป็นระดับต่ำสุดรอบ 67 เดือน นับตั้งแต่ปี 2559 แม้ว่าในเดือนดังกล่าวจะเริ่มได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น มาตรการชิมช้อปใช้ โดยสาเหตุที่ดัชนีดังกล่าวปรับลดลง เนื่องจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้าและเสถียรภาพการเมืองในอนาคต

ด้านดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน พ.ย.2562 ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 47.4 ผลจากความเชื่อมั่นที่ลดลงในภาคการผลิต โดยดัชนีภาคการผลิตปรับลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบและอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน สะท้อนถึงภาวะการผลิตโดยรวมที่ยังแย่ลงต่อเนื่อง มองไปในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีดังกล่าว ยังคงลดลงมาอยู่ที่ 52.7 จากมุมมองเชิงบวกที่ลดลงทั้งในภาคการผลิตและภาคที่ไม่ใช่การผลิต ซึ่งดัชนีย่อยปรับลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านปริมาณการผลิตและผลประกอบการ นำโดยกลุ่มก่อสร้างและกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ สอดคล้องกับการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวที่ยังไม่ฟื้นตัว

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นด้านอื่นๆ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อของลูกค้าในประเทศเดือน พ.ย. ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดย "อุปสงค์ในประเทศ" ยังคงเป็นข้อจำกัดสำคัญในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ประกอบการมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมาก ส่วนหนึ่งสะท้อนจากความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการที่มีแนวโน้มลดลง เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นด้านการจ้างงานที่ปรับลดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในภาคการผลิต

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางดัชนีความเชื่อมั่นต่างๆ ที่ลดลง แต่กลับมีข่าวว่า "เอสแอนด์พี" บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลก "ปรับมุมมอง" ความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจไทย "เพิ่ม" จากระดับ "มีเสถียรภาพ" เป็น "เชิงบวก" ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกรอบ 9 ปี โดย "เอสแอนด์พี" ให้เหตุผลหลัก คือ ฐานการคลังและการเงินของประเทศเข้มแข็ง ทำให้รัฐบาลยังสามารถขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ที่สำคัญได้อีกมาก รวมทั้งในช่วงที่ผ่านมายังดำเนินนโยบายได้อย่างเหมาะสมด้วย ขณะเดียวกันไทยยังมียุทธศาสตร์การลงทุนเพื่อยกระดับประเทศที่สำคัญ โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน และ เอสแอนด์พี ก็ยังมองภาพการเมืองไทยมีเสถียรภาพดี

นอกจาก "เอสแอนด์พี" ที่ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยสู่เชิงบวกแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นาน ทั้ง "ฟิทช์ เรทติ้ง" และ "มูดี้ส์" ซึ่งเป็นบริษัทเครดิตเรทติ้งระดับโลก ก็ได้ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยสู่เชิงบวกด้วยเช่นกัน ไม่เพียงเท่านี้ยังมีบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือบางแห่ง คือ "อาร์แอนด์ไอ" ได้ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของไทยดีขึ้นจากระดับ BBB- เป็น A-

ทั้งหมดนี้สะท้อนถึง "ความเชื่อมั่น" ของ "ต่างชาติ" ที่มีต่อเศรษฐกิจไทย แล้วอย่างนี้ทำไมคนไทยถึงยังไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจของตัวเอง ...ประเด็นนี้จึงถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลต้องคิดและทบทวนวิธีการที่จะฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา หากปล่อยไว้นานจะยิ่งดึงเศรษฐกิจไทยดิ่งลงเหวมากขึ้น