'วิลาศ' ชำแหละพิรุธขยายสัญญา ‘รัฐสภาใหม่’

'วิลาศ' ชำแหละพิรุธขยายสัญญา ‘รัฐสภาใหม่’

"วิลาศ จันทร์พิทักษ์" อดีตประธาน กมธ.ป.ป.ช. ชำแหละพิรุธขยายสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หลังจากการต่อสัญญารอบ 4 ที่ให้ขยายเวลาก่อสร้างออกไปอีก 382 วัน

วิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์รายการคมชัดลึก เนชั่นทีวี ถึงการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นี้มาอย่างต่อเนื่อง 

157634993395                 "วิลาศ จันทร์พิทักษ์" อดีตประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร

"หลังจากการต่อสัญญารอบ 4 ที่ให้ขยายเวลาก่อสร้างออกไปอีก 382 วัน แม้กระทั่งนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ ก็ยังไม่รับปากว่าจะต่อสัญญาอีกหรือไม่ ซึ่งสัญญารอบ 3 ทราบกันอยู่แล้วว่า ไม่มีทางเสร็จทันแน่นอน จากรายงานผลการก่อสร้าง ที่สรุปล่วงหน้า 44 วัน ก่อนครบสัญญารอบ 3 ตัวเลขความคืบหน้าอยู่ที่ 69.8% ขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 48% ของสัญญารอบ 2 บอกได้ว่า การขยายเวลา 421 วัน คืบหน้า 21% เท่านั้น หากเทียบกับการก่อสร้างที่เหลือประมาณ 30% อาจต้องใช้เวลาเกิน 674 วันตามที่ระบุไว้ในสัญญารอบ 3" 

"ตัวเลขความคืบหน้าอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่จากการต่อสัญญาที่กระทำตามอำเภอใจ เชื่อว่าหากมีการปรับเป็นเงินวันละ 12.28 ล้าน จาก 0.1% ของค่าจ้างทั้งหมด 12,280 ล้านบาท ก็เชื่อว่า จะมีการเร่งก่อสร้างโดยอัตโนมัติ คิดคร่าวๆ จาก 0.1% ของค่าจ้างทั้งหมด ก็ประมาณเดือนละ 400 ล้านบาท ตกประมาณ 4 หมื่นล้านบาท จากการผิดสัญญาในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา"

วิลาศ บอกด้วยว่า แม้โดยหลักการ เราไม่สามารถปรับเป็นเงินได้ตามจำนวนดังกล่าว เพราะในช่วงแรกๆ ของโครงการ เป็นความผิดพลาดของทางสภาฯ จริง แต่สิ่งที่นายสรศักดิ์ เลขาฯสภาฯ กล่าวถึง การต่อสัญญาทั้ง 3 ครั้งว่าเป็นความผิดพลาดของทางรัฐสภานั้น ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด เพราะจากเอกสารการต่อสัญญารอบที่ 1 ระบุเหตุผลว่า "ผู้ว่าจ้างตกลงให้ผู้รับจ้าง ขยายเวลา 387 วัน เนื่องจากส่งมอบพื้นที่ล่าช้า และปัญหานำดินขุดที่เหลือใช้จากการก่อสร้างเสาเข็มออกไปไว้นอกโครงการก่อสร้าง" เป็นเรื่องจริง

ต่อมาสัญญารอบ 2 อ้างเหตุผลว่า ผู้ว่าจ้างให้ขยายเวลาออกไป 421 วัน "เนื่องจากความล่าช้าในการขนย้ายดินขุดเพื่อก่อสร้างชั้นใต้ดิน" ซึ่งในการก่อสร้างปริมาณดินที่ขุดจากพื้นที่มีจำนวนมาก แต่การขนย้ายดินได้แล้วเสร็จก่อนต่อสัญญาครั้งที่ 1 จะสิ้นสุด ทั้งยังมีหนังสือจากผู้บริหารโครงการก่อสร้าง ยืนยันว่า ได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ขนย้ายวัสดุ เกลี่ยพื้นที่ในส่วนที่เหลือ ได้แก่ ชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า ศูนย์สาธารณสุขที่ 38 ร.ร.โยธินบูรณะ

หนังสือยืนยันฉบับนี้ ออกเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2559 ส่งถึงเลขาธิการสภาฯ เพื่อยืนยันว่าอุปสรรคทั้งหมดนี้ได้เคลียร์หมดแล้ว การขยายเวลาอีก 421 วัน มีการคำนวณจากพื้นที่ว่างไม่ หรือภายใต้เงื่อนไขพื้นที่ ที่มีความพร้อมทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่

หลังจากพ้นสัญญารอบ 2 ด้วยเวลา 808 วัน ที่เกือบเท่ากับระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาหลัก 900 วัน ก็ยังต่อสัญญารอบ 3 อีก 674 วัน โดยอ้างว่า "จากปัญหาการส่งมอบพื้นที่โดยรอบ ทั้งที่เคยมีหนังสือยืนยันว่าเคลียร์หมดแล้ว "ในสื่อก็มีการเผยแพร่ภาพ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานพิธีส่งมอบพื้นที่ ร.ร.โยธินบูรณะ เมื่อ 16 พ.ค.2559 ร่วมกับนางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล เลขาธิการสภาฯ ขณะนั้น แต่อีก 7 เดือนต่อมา ก็ยังมีการต่อสัญญารอบ 2 (16 ธ.ค.2559) ฉะนั้น การอ้างเหตุผลเพื่อต่อสัญญารอบ 3 จึงไม่เป็นความจริง"

157634842587

วิลาศ ให้ความเห็นว่า "การปรับเงินจากความล่าช้าการก่อสร้าง ควรเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่การต่อสัญญารอบที่ 3 แต่ก็ยังมีการต่อสัญญารอบที่ 4 ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนักหนากว่าทุกครั้ง คือการอ้างเหตุผลจากสัญญาข้างเคียงอื่นๆ จากโครงการ เช่น การติดตั้งระบบไอซีที ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ซึ่งปัญหาอยู่ที่ "สัญญาหลัก" ที่เขียนไว้ชัดเจน ในภาคผนวก 16 ระบุว่า "จะเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างไม่ได้"

157634855811

ประเด็นอยู่ที่ในข้อ 24.1 ระบุให้ผู้รับจ้างหลักต้องแจ้งให้ทราบภายใน 15 วัน แต่ที่ผ่านมาไม่พบการแจ้ง แต่กลับนำมาอ้างเป็นเหตุให้ต้องขยายเวลาอีก ที่สำคัญประเด็นที่ต้องถามต่อสภาฯ ว่า รู้ได้อย่างไรกับการต่อสัญญารอบ 4 อีก 382 ว่าจะเกิดความเสียหายอะไร ทั้งที่ยังไม่ได้รับแจ้ง และจำนวน 382 วัน คำนวณจากพื้นฐานอะไร

"ผมถามไปที่กลุ่มงานพัสดุของรัฐสภา ถึงเรื่องที่ฝ่ายบริหารส่งข้อเสนอการขยายเวลาของผู้รับจ้างมาให้พิจารณา เมื่อพัสดุฯไม่เห็นชอบอย่างชัดเจน และส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา จนถึงวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนจากฝ่ายกฎหมาย แต่กลับมีการต่อสัญญารอบที่ 4 ไปแล้ว"

"ผมไม่มีอำนาจในการพิจารณาให้ใครต้องติดคุก แต่โดยส่วนตัวแล้ว เชื่อว่าโครงการนี้มีความผิดปกติ เห็นได้จากข้อมูลของโครงการเป็นความลับอยู่ตลอด เว็บไซต์ของสภาก็ไม่เคยเผยแพร่ข้อมูลใดๆ เลย ทั้งความคืบหน้า ข้อมูลสัญญาต่างๆ ต้องไปค้นคว้ากันเอง และนี่แหละคือข้อสงสัย" อดีตประธาน กมธ.ปราบโกงทิ้งท้าย