หุ่นยนต์แย่งงาน ‘คนสหรัฐ’ สูงในรอบ 10 ปี

หุ่นยนต์แย่งงาน ‘คนสหรัฐ’ สูงในรอบ 10 ปี

หุ่นยนต์และจักรกล มีบทบาทในตลาดแรงงานสหรัฐหลายเท่าตัวในช่วงสอบปี ชี้เพิ่มทักษะทรัพยากรมนุษย์ช่วยลดการแย่งงานได้

สำนักข่าววีโอเอของสหรัฐเปิดเผยว่า หุ่นยนต์และจักรกลเข้ามามีบทบาทในตลาดแรงงานอเมริกันเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว ในช่วงปี 2552 - 2562 โดยภาคการผลิตสหรัฐได้รับผลกระทบหนักช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

วิลเลียม รอดเจอร์ส นักเศรษฐศาสตร์และอาจารย์จากศูนย์พัฒนาแรงงานจากมหาวิทยาลัยรัทเจอร์สแห่งนิวเจอร์ซี และผู้จัดทำรายงานด้านหุ่นยนต์ที่มีผลต่อการจ้างงานและค่าจ้างในประเทศสหรัฐ ระบุว่า เศรษฐกิจในยุคนี้พึ่งพาเทคโนโลยีและหุ่นยนต์มากขึ้น เพื่อแทนที่กำลังแรงงานที่เป็นมนุษย์

“ขณะนี้ สหรัฐเข้าสู่ยุคหุ่นยนต์ภิวัตน์ ซึ่งหุ่นยนต์ได้เข้ามามีบทบาทในตลาดแรงงานมากขึ้น ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานสหรัฐทั้งหมด” วิลเลียมระบุ

ในรายงานพบว่า รัฐในตอนกลางด้านเหนือของประเทศ ตั้งแต่มิชิแกน โอไฮโอ อินเดียนา อิลลินอยส์ และวิสคอนซิน ที่มีอัตราการใช้หุ่นยนต์อย่างเข้มข้น ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในภาคการผลิต อย่างโรงงานประกอบชิ้นส่วนและโรงงานบรรจุภัณฑ์

ขณะที่กลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบมากสุด คือ คนอายุน้อย ระดับการศึกษาต่ำ นอกจากนี้ยังพบว่า ชายผิวสีและผู้หญิงจะถูกหุ่นยนต์แย่งงานมากที่สุด แต่คนกลุ่มดังกล่าวจะเลือกหางานในภาคส่วนอื่นๆที่ได้รับค่าจ้างน้อยกว่าแทน อย่างภาคบริการ

นายรอดเจอร์ส แนะว่า ทางที่จะช่วยให้มนุษย์ไม่ถูกหุ่นยนต์แย่งงานได้ คือ การพัฒนาการศึกษาและฝึกอบรมแรงงานที่จะได้รับผลกระทบให้สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางอาชีพที่สร้างรายได้มากขึ้นให้พวกเขา ตอนนี้ที่เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเฟื่องฟู ถือเป็นจังหวะดีที่สุดในการลงทุนพัฒนาแรงงานมนุษย์ เพื่อสร้างเกราะป้องกันจากการคืบคลานเข้ามาของยุคนี้