'ธนาธร' ชี้ทางแก้ รธน. อาจแก้ด้วยเลือด หากผู้มีอำนาจไม่ผ่อนปรน ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

'ธนาธร' ชี้ทางแก้ รธน. อาจแก้ด้วยเลือด หากผู้มีอำนาจไม่ผ่อนปรน ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

เวทีฝ่ายค้าน ปลุก ปชช. ร่วมแก้รธน. "ธนาธร" ชี้ทางแก้ รธน. อาจแก้ด้วยเลือด หากผู้มีอำนาจไม่ผ่อนปรน - "เสรีพิศุทธ์" เสนอทางง่ายแก้ รธน. ด้วยการฉีกทิ้ง ขอ 3 เดือน ตั้ง "นายกฯ" ใหม่ ไม่หวั่นถูกฟ้องดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 62 ที่คณะนิติศาสตร์ กลุ่มพรรคการเมืองร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 7 พรรค ร่วมจัดเวทีเสวนา เรื่อง พรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายสมพงษ์​ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวย้ำถึงความจำเป็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เพราะปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง 6 เดือนที่ผ่านมา เกิดจากความพยายามสืบทอดอำนาจและเขียนเนื้อหาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งตนมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนั้นสร้างความฉิบหายให้ประชาชน แม้ที่ผ่านมารัฐบาลเชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันต่างชาติให้ความเชื่อมั่นด้านการค้า แต่พบว่าการทำสัญญาทางการค้าที่มีเงื่อนไขต่อความเป็นประชาธิปไตยของประเทศยังไม่พบการลงนาม เพราะต่างชาติต้องการพิสูจน์ว่าประชาธิปไตยในประเทศไทยเป็นของจริงหรือไม่ สำหรับประเด็นที่เป็นปัญหาของรัฐธรรมนูญ คือ ส.ว. จำนวน 250 คนที่มาจากการแต่งตั้ง แผนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่จะให้ใช้เป็นกฎหมาย แต่สนับสนุนให้ใช้เป็นแนวทางเท่านั้น ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยังสังคมทุกภาคส่วนร่วมประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้เข้าใจต่อกระบวนการร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญจากความร่วมมือของประชาชนและขอให้รัฐบาลสละเงินเพื่อทำประชามติ โดยเมื่อถึงเวลาทำประชามติตนขอเสียงประชาชนที่ร่วมออกเสียงให้เป็นคะแนนเสียงแบบถล่มทลาย

นายสมพงษ์​ ยังกล่าวให้กำลังใจต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และพร้อมจะต่อสู้ในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยช่วยเหลือพรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อไทยอาจถูกยุบ ตนยืนยันว่าไม่เคยกลัว เพราะเมื่อมาด้วยกันต้องไปด้วยกัน​

ขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ร่วมแสดงจุดยืนทางการเมืองและสร้างความสมานฉันท์ที่ทำให้พวกเราเดินหน้าต่อไป และขอบคุณแรงสนับสนุนจากประชาชนทุกคน ดังนั้นเพื่อตอบแทนประชาชนตนสัญญาว่าพรรคจะไม่ทรยศต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนมองว่าคือการต่อสู้กับระบอบที่สืบทอดการรัฐประหาร ตั้งแต่ปี 2549 และปี 2557 ที่ฉุดความเจริญของประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างความแตกแยก สร้างความเกลียดชัง รวมถึงความระแวงในกลุ่มประชาชนเพื่อใช้เป็นข้ออ้างทำรัฐประหาร เช่น ปลุกระดม ไล่คนชังชาติ คือ ความพยายามแช่แข็งประเทศไทย

"เราแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหยุดความขัดแย้ง เรื่องอำนาจ ผ่านการจัดสรรอำนาจใหม่ ทั้งฝ่ายองค์กร ​ตุลาการ ฝ่ายบริหาร องค์กรในสังคม​ เอ็นจีโอ เพื่อให้ทุกฝ่ายพอใจ แต่เมื่อปล่อยให้พวกเขาจัดสรรอำนาจ พบเป็นการดึงอำนาจเข้าสู่ตัวเอง การมีรัฐธรรมนูญใหม่ คือ การสร้างกติกาที่ทุกฝ่ายของสังคมยอมรับร่วมกันไม่ว่าพรรคไหน หรือเป็นกลุ่มพลังทางสังคมกลุ่มไหน ไม่ว่าใครแพ้หรือชนะเลือกตั้งต้องปฏิบัติตามกติกา ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทุกฝ่ายยอมรับ คือ ทางรอดเดียวของประเทศไทย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผมมองว่ามี 2 ทางคือ แก้ด้วยเลือด หรือ แก้ด้วยการยินยอมพร้อมใจจากทุกฝ่าย หากฝ่ายผู้มีอำนาจไม่พร้อมเปิดพื้นที่ หรือผ่อนปรนให้คนเห็นต่าง ดังนั้นคงไม่มีทางเลือกใดให้เหลืออยู่ เพราะเขาเป็นฝ่ายผลักให้เราเลือกทางเลือก" นายธนาธร กล่าว

ทั้งนี้ ตอนท้ายของการกล่าวของ นายธนาธร ได้ระบุถึงการจัดกิจกรรมชุมนุมที่สกายวอร์คห้างสรรพสินค้ามาบุญครองที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการทำลายความสุขประชาชนช่วงส่งท้ายปีเก่า ว่า "ของขวัญที่ดีที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกจากการเป็นนายก"

ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญที่ทำได้โดยเร็ว คือ ฉีกรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันทิ้ง เพื่อไม่ให้ทุกฝ่ายต้องปวดหัว จากนั้นให้นำรัฐธรรมนูญฉบับที่ทุกฝ่ายยอมรับมาปฏิบัติ จากนั้นใช้เวลา 3 เดือนเพื่อตั้งนายกรัฐมนตรี​ อย่างไรก็ตามที่ตนระบุว่าฉีกรัฐธรมนูญทิ้งนั้นไม่กลัวจะโดนคดี และที่ผ่านมาไม่เคยถูกเชิญไปปรับทัศนคติ เพราะหากมาเมื่อใด ตนยิงทิ้งเมื่อนั้น

ทางด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวให้กำลังใจกับ นายธนาธร เพราะมองว่าการต่อสู้เพื่อคนไทยและประชาธิปไตย ส่วนสู้จะติดคุก แพ้หรือชนะ เกิดขึ้นได้ แต่เผด็จการไม่มีวันได้ชัยชนะจากประชาชน ดังนั้นประเด็นที่ประชาชนเรียกร้องหาผู้นำ ขณะนี้มีแล้ว ขอให้อย่าให้ใครละทิ้งผู้นำ และขอให้เป็นเวลาของประชาชน ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของ พล.อ.ประยุทธ โดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อ คสช. ​ไม่ใช่ประชาธิปไตย และเป็นรัฐธรรมนูญเลว ตนรับไม่ได้ ส่วนระบบเลือกตั้ง มี ส.ว.จากการแต่งตั้ง ถือเป็นระบบสืบทอดอำนาจ และพบว่ามีการซื้อตัว ส.ส. ซึ่งพรรคของตนมีไป 1 คน ส่วนของพรรค นายธนาธร ไป 3 คน ดังนั้นขอเรียกร้องประชาชนให้ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน

ขณะที่ นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคปวงชนไทย กล่าวยืนยันถึงความร่วมมือแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย นายสงคราม ระบุว่า เมื่อมีรัฐธรรมนูญเลว ย่อมได้ผู้นำที่เลว