เปิดสถิติว่างงาน พ.ย. 4.29 แสนคน เลิกจ้างพุ่ง 251%

เปิดสถิติว่างงาน พ.ย. 4.29 แสนคน เลิกจ้างพุ่ง 251%

เปิดสถิติว่างงาน พ.ย. 2562 พบมีงานทำ 38 ล้านคน ลดลง 5.5 แสนคนเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีผู้มีงานทำ 38.26 ล้านคน ถูกเลิกจ้างพุ่ง 251%

สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยผลสำรวจภาวะการทำงานเดือนพ.ย. 2562 พบมีงานทำ 38 ล้านคน ลดลง 5.5 แสนคน สำหรับจำนวนผู้ว่างงานในเดือนพฤศจิกายน 2562 พบว่าอยู่ที่ 4.29 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราว่างงานร้อยละ 1.1

โดยจำนวนผู้ว่างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้น 6 หมื่นคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.2 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2561 และหากเทียบกับเดือนก่อน ตุลาคม 2562 ที่ พบว่าจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 7.4 หมื่นคนหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20

ทั้งนี้ จำนวนผู้ว่างงานที่เพิ่มขึ้น ดังกล่าว ถือว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 4 เดือน ที่มีจำนวนผู้ว่างงาน 4.36 แสนคนขณะที่เหตุผลที่ทำให้แรงงานว่างงาน ส่วนใหญ่ถูกนายจ้างเลิกจ้าง หยุดปิดกิจการทั้งที่ผู้ว่างงานเหล่านี้ มีระดับการศึกษาถึงระดับอุดมศึกษามีมากที่สุด

ขณะที่ วารสารการเงินธนาคารร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศปรากฏว่า ทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยปี 2562 ได้ต้อนรับแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนใหม่ คือ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็น อันดับ 1 รวม 120,960ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 63,315 ล้านบาท     

อันดับ 2 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถหรือหมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการเจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 66,110.64 ล้านบาท รวยลดลง 11,018.68 ล้านบาท หรือ 14.29%

อันดับ 3 ได้แก่นักลงทุนรายใหญ่ทายาทอาณาจักรโอสถสภา นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ก้าวจากอันดับ 7เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 48,613.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,648.61 ล้านบาท   

อันดับ 4 ได้แก่ นายคีรี กาญจนพาสน์ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ขยับจากอันดับ9 เมื่อปีที่แล้ว โดยหุ้นที่ถือครองรวมมูลค่าทั้งสิ้น 43,080.42ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,708.42 ล้านบาท

 อันดับ 5 ได้แก่ นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของบมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงานจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หล่นจากอันดับ3เมื่อปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 42,084.25 ล้านบาท ลดลง 125.16 ล้านบาท