สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 9-13 ธันวาคม 2562

สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 9-13 ธันวาคม 2562

เงินบาทกลับมาแข็งค่า ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นจากความหวังต่อดีลการค้าสหรัฐฯ-จีน

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

-  เงินบาทแข็งค่าเข้าใกล้แนว 30.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค นำโดย เงินหยวนของจีน หลังจากมีรายงานข่าวระบุว่าสหรัฐฯ และจีนใกล้ที่จะบรรลุดีลการค้าเฟสแรกระหว่างกัน ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงเทขายอย่างหนักหลังเฟดส่งสัญญาณภายหลังการประชุมรอบนี้ว่า จะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าหากไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น นอกจากนี้สถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่หนุนเงินบาทเช่นกัน

-  ในวันศุกร์ (13 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 30.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.34 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ธ.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (16-20 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.10-30.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่ตลาดรอติดตาม คือ ผลการประชุมนโยบายการเงินกนง. (18 ธ.ค.) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอังกฤษ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนธ.ค. ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสอง รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และ Core PCE Price Index เดือนพ.ย. รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/62 (final) นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน และดัชนี PMI เดือนธ.ค. (เบื้องต้น) ของหลายๆ ประเทศชั้นนำด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

ดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นกลับมาปิดปลายสัปดาห์ที่ 1,573.91 จุด (จากระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 1,546.51 จุด) โดยดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 0.96% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 54,486.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.80% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai เพิ่มขึ้น 0.32% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 314.89 จุด 

- ตลาดหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงขายของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มขนส่งและค้าปลีกสวนทางกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นหลังข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ เดือนพ.ย. ออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลัง S&P Global Ratings ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของไทยเป็น “เชิงบวก” จาก “มีเสถียรภาพ” ขณะที่ สัญญาณเชิงบวกซึ่งสะท้อนว่าสหรัฐฯ และจีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงปลายสัปดาห์     

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (16-20 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,550 และ 1,525 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,585 และ 1,600 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของกนง. (18 ธ.ค.) สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน  รวมถึงประเด็น Brexit ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/62 (final) ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสอง รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย. และดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนธ.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น ดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนธ.ค.ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ของจีน