คงมุมมองบวกในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

คงมุมมองบวกในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

สหรัฐฯ มีแนวโน้มบรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1

ประธานาธิปดีทรัมป์ ทวีตข้อความระบุสหรัฐฯ ใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน ขณะที่มีรายงานร่างข้อตกลงเหลือเพียงการลงนามของประธานาธิปดี โดยประเด็นสำคัฯของข้อตกลงคือการที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น, จีนจะดูแลการละเมิดทัพย์สินทางปัญญา, สหรัฐฯ ยกเลิกการเก็บภาษีการค้า 1.6 แสนล้านเหรียญฯ ที่จะถึงกำหนด 15 ธ.ค.นี้ และยินยิมลดภาษีการค้าลง 50% ของอัตราที่เรียกเก็บไปก่อนหน้า จากสินค้านำเข้า 3.6 แสนล้านเหรียญฯ

การเลือกตั้งอังกฤษ พรรคอนุรักศ์นิยมมีคะแนนนำ ผล Exit poll คาดได้ส.ส.จำนวน 384 ที่นั่ง (จาก 650 ที่นั่ง) และเพิ่มขึ้นจาก 317 ที่นั่งในการเลือกตั้งปี 2560 ส่งผลให้การผลักดันนโยบายเรื่อง Brexit จะมีความชัดเจนและเป็นเอกภาพ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดมากกว่าเดิมที่การดำเนินงานมีอุปสรรคและก่อให้เกิดความไมท่ชัดเจนอย่างยาวนาน

ภาพการฟื้นตัวของโลกชัดขึ้น ยืนยันมุมมองผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตร เราคงมุมมองบวกต่อการลงทุนในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้าที่มาจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลก ความเสี่ยงเรื่องเจรจาการค้าที่หายไป จะไม่ไปขัดขวางโมเมนตัมการฟื้นตัว ซึ่งยืนยันมุมมองผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ขยับขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มธนาคารและประกันภัย

หุ้นไทยไม่ใช่ขาขึ้น แต่มีโอกาสฟื้นตัวไปแถว 1700 จุด ภาพการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น รวมถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก คล้ายคลึงกับปี 2555 เราคาดดัชนี MSCI Asia Ex Japan และหุ้นไทยจะแกว่งตัวขึ้นแต่ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยกลุ่มที่เกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายนอกที่ฟื้นตัวอย่างพลังงาน จะได้ปัจจัยบวก โดยเราชอบ TOP, SPRC, PTT, PTTEP

ภาพรวมกลยุทธ์ ยังให้น้ำหนักโอกาสฟื้นตัวจาก 1550-1565 จุด ต่อเนื่อง ขณะที่คงมุมมองบวกในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้า จากภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว ลุ้นลบภาพลบทางเทรนิคโดยกลับไปยืนเหนือ 1580 จุด ก่อนสิ้นเดือน และเราขอเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นเป็น 70% (จาก 50%) // หุ้นแนะนำวันนี้ VNT, PTT /เก็งกำไร  BDMS* (เป้า 26, ตัดขาดทุน 24), SPRC (เป้า 11, ตัดขาดทุน 9.80)

แนวรับ 1561 จุด / แนวต้าน : 1583 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นการลงทุน

BBL ประกาศเข้าซื้อกิจการ PT Permata ของอินโดนีเซีย วงเงิน 9 หมื่นล้านบาท แล้วเสร็จประมาณไตรมาส 3/62 โดยใช้กระแสเงินสดภายใน ถึงแม้ ROE ของธนาคารดังกล่าวจะต่ำกว่า BBL แต่จะช่วยสร้างการเติบโตระยะยาวและสร้างกำไรประมาณ 10% ของปัจจุบัน คาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัว

SET50 คาดหุ้นเข้า SCCC, KKP /หุ้นออก BPP, DELTA

หุ้นที่ Laggard - หุ้นใน SET50 ที่ยังปรับขึ้นน้อยนับจากต้นปี ได้แก่ IRPC, IVL, DELTA, BH, PTTGC, BPP, KBANK, TMB, BANPU, CPN, TU, BBL, BJC, KTB, SCC, TRUE

 

ประเด็นติดตาม: 13 ธ.ค. ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯ // 15 ธ.ค. – ทรัมป์พิจารณาขึ้นภาษีจีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)