สรรพสามิตรับศึกษาเก็บภาษีรถยนต์เก่า

สรรพสามิตรับศึกษาเก็บภาษีรถยนต์เก่า

โฆษกกรมสรรพสามิตรับข้อเสนอเอกชนเก็บภาษีรถยนต์เก่า โดยจะนำมาศึกษาและรับฟังความเห็นอย่างรอบคอบ ชี้รถยนต์เก่ามีแนวโน้มจำนวนมากขึ้น หากมีระบบจัดการที่ดีจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

นางรัชฎา วานิชกร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิตชี้แจงประเด็นข่าวที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทย จะเข้าหารือกับกรมสรรพสามิตเพื่อเสนอมาตรการกระตุ้นผู้บริโภคในการซื้อรถยนต์คันใหม่ ด้วยการเสนอให้กรมสรรพสามิตจัดตั้งกองทุนเพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถยนต์เก่าที่ยังใช้งานอยู่ ภายใต้เงื่อนไขว่าหากผู้ใช้รถยนต์ซื้อรถยนต์ใหม่นำรถคันเก่าเข้าสู่กระบวนการกำจัดซากที่ได้มาตรฐานจะได้รับเงินที่จ่ายเข้ากองทุนคืนพร้อมดอกเบี้ย โดยมีข้อสังเกตจากสังคมว่าเป็นการกดดันให้ประชาชนต้องซื้อรถยนต์ใหม่ ที่มีราคาสูงกว่ารถยนต์มือสอง และเป็นภาระของประชาชนที่ใช้รถยนต์เก่าต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย

กรมสรรพสามิตขอเรียนชี้แจงว่า ปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีเฉพาะรถยนต์ใหม่     ที่ผลิตจากโรงอุตสาหกรรมหรือนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจัดเก็บภาษีตามหลักสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดอัตราภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)  เพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้เกิดการประหยัดพลังงานและลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อมจากการปล่อย CO2 อันเป็นสาเหตุหลักให้เกิดสภาวะโลกร้อน และฝุ่น PM 2.5

กรณีแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมให้กำจัดซากรถยนต์ เป็นข้อเสนอของภาคเอกชนให้กรมสรรพสามิต เพื่อสร้างระบบในการกำจัดซากรถยนต์เก่าใช้แล้วอย่างถูกวิธีและเป็นไปตามมาตรฐานตามหลักสากล ซึ่งปัจจุบันมีซากรถยนต์เก่าใช้แล้วถูกทิ้งอยู่เป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต หากมีระบบการจัดการดังกล่าว  ก็จะสามารถนำชิ้นส่วนและเศษเหล็กไปใช้ทำประโยชน์ได้ รวมทั้ง ช่วยลดปริมาณซากรถยนต์เก่าที่มีการจอดทิ้งไว้ในที่สาธารณะ ซึ่งหลายประเทศได้มีการดำเนินการแล้ว 

อย่างไรก็ตาม กรมสรรพสามิตจำเป็นต้องศึกษาผลกระทบของข้อเสนอดังกล่าวอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้มีส่วนได้เสียและผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่ก่อให้เกิดภาระแก่ประชาชน โดยจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะมีมาตรการหรือ การดำเนินการใด ๆ ในชั้นนี้ จึงเป็นเพียงแนวคิดที่ภาคเอกชนนำเสนอต่อกรมสรรพสามิตเบื้องต้นเท่านั้น