วางระเบิดรถตำรวจสภ.เทพา ตำรวจเจ็บ 5 นาย

เกิดเหตุลอบวางระเบิดขึ้นอีกครั้งในพื้นที่อ.เทพา จ.สงขลา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.44 น.วันนี้(12ธ.ค.62) พ.ต.ท.บัญชา ผาดไธสง สว.(สอบสวน) สภ.เทพา จ.สงขลา รับแจ้งคนร้ายได้ลอบวางระเบิดรถของตำรวจ สภ.เทพา ซึ่งเป็นชุดรักษาครู  ขณะนั่งมาในรถกระบะสี่ประตู หมายเลขทะเบียน 6 กฆ 1312 กรุงเทพมหานคร  เหตุเกิดบริเวณถนนสายเทพา-ลำไพล พื้นที่ ม.5 บ้านป่ากอ ต.เทพา อ.เทพา

แรงอัดระเบิดทำให้รถได้รับความเสียหายพังยับเยิน โดยเฉพาะทางฝั่งซ้ายของตัวรถ และมีตำรวจที่นั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บยกคันรวม5 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ท.ไพศาล แสงอรุณ บาดเจ็บที่เท้าขวา ด.ต.ศุภชัย รักนุ่น หูซ้ายอื้อ, ด.ต.สัญญา จันทร์แก้ว บาดเจ็บนิ้วมือซ้าย เขาซ้ายแขนขวา ด.ต.ประคอง ช่วยนุกุล  มีแผลถลอกที่หน้าผากหูอื้อ,ด.ต.สุกรี หะยีตาเห แน่นหน้าอกหูอื้อ โดยทั้งหมดได้ถูกนำตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลเทพา และอาการโดยรวมของทั้ง5 นายปลอดภัย

โดยขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทั้ง5 นาย กำลังเดินทางไปรักษาความปลอดภัยครู โรงเรียนบ้านป่ากอ ซึ่งตั้งอยู่ใน ม.5 บ้าป่ากอ เช่นเดียวกัน แต่ระหว่างทางก่อนถึงโรงเรียนได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิด

หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เทพาได้ประสานกำลังหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ทั้งทหาร ตชด.ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของตำรวจภูธรภาค9และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นระเบิดแสวงเครื่องประกอบไว้ในถังแก๊สปิคนิคนน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารโดยวางไว้ในลักษณะแนวนอนบนไหล่ทาง แรงระเบิดทำให้เป็นหลุมลึกและกว่าประมาณ5-10 เมตร รัศมีของระเบิดกินพื้นที่ 80 เมตร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายจงใจที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างสถานการณ์ และตอบตอบโต้หลังจากที่เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการไล่ล่าและปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบขึ้นหลายครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีวิสามัญ2 แกนนำ คือ นายซอบรี หลำโซ๊ะ อายุ 28 ปี และนายมะยาโก๊ะ ลาเต๊ะ อายุ 40 เมื่อคืนวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในพื้นที่ ม.1 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

สำหรับจุดเหตุระเบิดในครั้งนี้อยู่ใกล้ๆกับจุดที่เคยเกิดเหตุลอบวางระเบิดรถตำรวจสภ.เทพาบริเวณหน้า ร.ร.บ้านป่ากอ อ.เทพา เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ปี58 ทำให้มีตำรวจเจ็บ 1 นาย

และหลังเกิดเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในแจ้งเตือนให้ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดทั้งในพื้นที่4 อำเภอชายแดนสงขลารวมถึงพื้นที่เมืองเศรษฐกิจเพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงตามมา