JCK หวังราคาขายที่ดินพุ่ง 10-20% ต่อไร่ พร้อมคาดพื้นที่อุตสาหกรรมเพิ่มแตะ 5 พันไร่

JCK หวังราคาขายที่ดินพุ่ง 10-20% ต่อไร่ พร้อมคาดพื้นที่อุตสาหกรรมเพิ่มแตะ 5 พันไร่

JCK คาดพื้นที่อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 2,500 ไร่ เป็น 5,000 ไร่ หลังรัฐบาลคลอดแผนผังที่ดิน EEC และคาดราคาขายที่ดินโตได้อีก 10-20%

นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือJCK ในฐานะผู้ประกอบการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก เปิดเผยว่าภายหลังการประกาศราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้ “แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2562”  หรือ EEC  ครอบคลุมใน 3 จังหวัดหลัก คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง

ผลดังกล่าวส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจของ JCK เพราะจะเป็นปัจจัยหลักทำให้จำนวนที่ดินที่จะทำเป็นนิคมอุตสาหกรรม TFD ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 2,500 ไร่ เป็น 5,000 ไร่ ขณะเดียวกันคาดว่าจะส่งผลให้ราคาขายที่ดินต่อไร่ เพิ่มขึ้น 10-20% เนื่องจากตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาระบุว่า พื้นที่จังหวัดดังกล่าวจะได้รับการพัฒนาเชื่อมโยงทั้งในเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ระบบคมนาคมและขนส่ง รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ระบบการตั้งถิ่นฐานและภูมิสังคม ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย อุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ และการประกอบกิจการ ระบบบริหารจัดการน้ำ ระบบการควบคุมและขจัดมลภาวะระบบการป้องกันอุบัติภัย

“บริษัท จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะจำนวนที่ดินภายใต้การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของบริษัท อยู่ในพื้นที่EEC นอกจากจำนวนที่ดินจะเพิ่มขึ้น และคาดว่าราคาขายต่อไร่ จะเพิ่มขึ้นอีก 10-20% จากปัจจุบันขายที่ 9.5 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งคาดว่าจะรองรับการเติบโตของบริษัทในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า” นายอภิชัยกล่าว 

ความชัดเจนทางด้านแผนผังที่ดินในโครงการ EEC ดังกล่าว เกิดขึ้นในจังหวะเหมาะสม นักลงทุนเกิดการเคลื่อนย้ายลงทุน ผลจากสงครามการค้า ส่งผลให้ไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ โดยพบว่าขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติแสดงความต้องการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น อาทิเช่น กลุ่มทุนจากประเทศจีน ยุโรป เป็นต้น กระจายในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์ โลจิสติกส์ เป็นต้น