เลื่อน 4 เดือนเก็บภาษีที่ดิน ชี้ 'อปท.' ไม่พร้อม

เลื่อน 4 เดือนเก็บภาษีที่ดิน ชี้ 'อปท.' ไม่พร้อม

คลังชี้ "อปท." ไม่พร้อม เหตุเลื่อนจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ออกไปอีก 4 เดือน จากเดิมจะเริ่มจัดเก็บเดือนเม.ย. เป็นเดือนส.ค.63

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินตามกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมที่จะต้องเริ่มเก็บในเดือนเม.ย.2563 เป็นเดือนส.ค.2563 เนื่องจาก กระบวนการสำรวจและประเมินทรัพย์สินทั้งที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่างๆขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ในบางส่วนยังไม่พร้อม ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอปท.ทั่วประเทศ จึงขอให้เลื่อนระยะเวลาการจัดเก็บภาษีดังกล่าวออกไป

“เราไม่ได้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมาย โดยกฎหมายยังมีผลตามกำหนดเดิม คือ ต้นปี 2563 แต่ช่วงระยะเวลาที่ผู้เสียภาษีตามกฎหมายดังกล่าว ซึ่งปกติจะต้องเริ่มเข้ามาชำระในเดือนเม.ย.ของทุกปี จะต้องถูกเลื่อนระยะเวลาออกไปประมาณ 4 เดือน เพื่อให้ท้องถิ่นได้มีเวลาในการเตรียมตัวสำรวจและประเมินราคาทรัพย์สินก่อนที่จะแจ้งไปยังผู้ถือครองทรัพย์สินให้มาชำระภาษี”

สำหรับกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับแนวทางปฏิบัติ ซึ่งมีทั้งหมด 19 ฉบับนั้น ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดดำเนินการแล้วเสร็จ โดยในจำนวน 19 ฉบับนั้น เป็นกฎหมายลูกที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลังมีจำนวน 8 ฉบับ ขณะนี้ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปจำนวน 8 ฉบับ ยังเหลืออีก 1 ฉบับ ซึ่งยังไม่จำเป็นต้องออกในขณะนี้ เนื่องจาก เป็นการกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีดังกล่าว ซึ่งในบทเฉพาะกาลของกฎหมายระบุว่า ให้กระทรวงการคลังพิจารณาอัตราการจัดเก็บในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้ กฎหมายได้กำหนดอัตราการจัดเก็บไว้แล้ว

ส่วนกฎหมายลูกอีก 11 ฉบับนั้น เป็นกฎหมายที่กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบจำนวน 6 ฉบับ ขณะนี้ ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 2 ฉบับ อีก 4 ฉบับเพิ่งจะผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ส่วนอีก 5 ฉบับ เป็นกฎหมายที่กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลังจะต้องร่วมกันดูแล โดย 4 ฉบับ กระทรวงการคลังได้ลงนามไปเรียบร้อยแล้ว เหลืออีก 1 ฉบับยังไม่แล้วเสร็จ โดยกระทรวงมหาดไทยขอเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนก่อน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพื้นที่ทางการเกษตร

เขากล่าวด้วยว่า แม้ว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินจะถูกเลื่อนออกไปอีก 4 เดือน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลแต่อย่างใด เพราะการชำระภาษีดังกล่าวยังคงเกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งเป็นการชำระเพียง 1 ครั้งต่อปีเท่านั้น ทั้งนี้ ในปีแรกของการจัดเก็บภาษีประเมินว่า จะมียอดจัดเก็บประมาณ 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดินซึ่งเป็นกฎหมายเดิมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท