'วิลาศ' ยื่นปปช.ลุยสอบ ขยายสัญญาสภาฯมิชอบ

'วิลาศ' ยื่นปปช.ลุยสอบ ขยายสัญญาสภาฯมิชอบ

เลขาธิการสภาฯ แจงขยายสัญญาสร้างสภาฯใหม่รอบ 4 ออกไปอีก 382 วัน เพราะของบไอซีที-สาธารณูปโภคล่าช้า อ้างติดขัดที่สำนักงบฯ-ครม. “วิลาศ” จ่อร้อง ป.ป.ช. 13 ธ.ค.นี้ ซัดไม่มีอำนาจขยายสัญญา

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงยืนยันว่า ได้ขยายสัญญาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ให้กับบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสครัคชั่น จำกัด รอบที่ 4 ซึ่งให้ระยะเวลา 382 วัน ตั้งแต่ วันที่ 16 ธันวาคม 2562 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2563 นั้นเป็นไปตามการพิจารณาของส่วนงานที่เกี่ยวข้องคือ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา CAMA และกลุ่มบริษัทผู้ควบคุมงาน

โดยยอมรับว่าสำนักงานเลขาธิการสภาฯ​ มีส่วนผิดทำให้มีเหตุผลต่อการขยายสัญญาก่อสร้างดังกล่าวออกไป กรณีการดำเนินงานนอกงานก่อสร้างหลัก คืองานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) และ งานสาธารณูปโภค ทั้งนี้ตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภา ที่เริ่มต้นดำเนินการช่วงปี 2555- 2556 สำนักงานฯ เสนองบประมาณรวม 1.8 หมื่นล้านบาท แต่ทางสำนักงบประมาณขอปรับลดงบประมาณดังกล่าวให้เหลือ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยตัดส่วนงบประมาาณไอซีที สาธารณูปโภคออก และจากนั้นสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ​เสนอของบประมาณที่ถูกตัดออกไปภายหลัง

ในส่วนของการของบประมาณไอซีที เสนอขอ 8,000 ล้านบาท เมื่อมิ.ย. 2561 แต่กระบวนการพิจารณาของสำนักงบประมาณและการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้ได้รับงบประมาณเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2561 และได้รับเพียง 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ มีขั้นตอนการหาตัวผู้รับจ้าง ซึ่งทำให้ได้บริษัทรับจ้างเมื่อเดือนก.พ. 2562 และมีกำหนดสัญญาดำเนินงาน 504 วัน ทั้งนี้งานนอกงานก่อสร้างหลักต้องทำควบคู่ไปเพื่อไม่ให้มีปัญหาภายหลัง

“ผมยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน แต่พิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนประเด็นของงบประมาณด้านไอซีทีที่ได้รับเพียงครึ่งเดียว และต่อไปต้องพิจารณาของบเพิ่มเติมหรือต้องเป็นเหตุขยายสัญญาใดหรือไม่นั้น ผมตอบไม่ได้ เพราะต้องถามผู้รับผิดชอบอีกครั้ง ทั้งนี้เหตุการขยายสัญญารอบที่ 4 นั้น เชื่อว่าไม่เป็นเหตุให้สำนักงานเลขาธิการฯ​ถูกเอกชนฟ้องร้องได้ และแม้ก่อนหน้านี้ภาคเอกชนระบุว่าจะขอใช้สิทธิดำเนินการ ผมตอบกลับไปว่าขอสงวนสิทธิไม่ให้ดำเนินการฟ้องร้อง” นายสรศักดิ์ แถลง

เลขาธิการสภาฯ แถลงด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าของงานก่อสร้างรัฐสภาในภาพรวม บริษัทผู้รับจ้างฯ ระบุว่าในวันที่ 31 ธ.ค. 2561 ห้องประชุมสุริยันจะก่อสร้างแล้วเสร็จ จากนั้นงานระบบไอซีทีจะเข้าติดตั้งอุปกรณ์ โดยใช้เวลา 30 วัน คือ ม.ค. 2563 จากนั้นตนจะขอเวลา 1-2 สัปดาห์เพื่อทดสอบระบบ ดังนั้นคาดว่าก่อนปิดสมัยประชุม วันที่ 28 ก.พ. 2563 ห้องประชุมสุริยันจะสามารถเข้าใช้ได้

อ่านข่าว-รัฐสภาแจงขยายสัญญา 'ซิโน-ไทย' รอบ 4 เลขาฯ อ้าง

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า งานระบบไอซีที และสาธารณูปโภค เป็นงานของผู้รับจ้างรายอื่นที่ไม่เกี่ยวกัยซิโนไทย แต่เหตุใดต้องขยายเวลาให้กับบริษัทผู้รับเหมารายหลัก นายสรศักดิ์ กล่าวว่า ต้องทำงานคู่ขนานไป หากให้บริษัทซิ-โนไทยก่อร้างจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อาจะต้องมารื้อฝ้าอาคารเพื่อวางระบบไอซีทีอีก ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้

ขณะนี้นายพินิจ พูลเกิด ที่ปรึกษาโครงการก่อสร้าง ในกลุ่ม CAMA ชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่า จากการพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุที่สำนักงานฯ ต้องขยายสัญญาก่อสร้างให้กับบริษัทผู้รับจ้าง เพราะเหตุที่เป็นความผิดของสำนักงาน โดยเฉพาะการเข้าดำเนินงานด้านไอซีทีล่าช้ากว่าแผน ที่กำหนดไว้ว่าต้องเริ่มดำเนินการ มิ.ย. 2561

“เหตุผลที่ล่าช้านั้นเพราะขั้นตอนการเสนอของบประมาณ ในส่วนของสำนักงบประมาณและครม. รวมถึงขั้นตอนการหาผู้รับจ้างงานไอซีที ทำให้แผนล่าช้าไป 10 -11 เดือน ทั้งนี้เหตุที่ระบุว่าเป็นความผิดของสำนักงานนั้นจะไม่เป็นเหตุที่นำไปสู่การฟ้องร้องของบริษัทเอกชนภายหลังได้ เพราะตามสัญญาเขียนกำกับไว้”

นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะยื่นให้ป.ป.ช.ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เพราะการต่อสัญญาไม่ชอบ ในข้อสัญญาไม่มีเหตุที่จะให้ขยายได้แล้ว ต้องดำเนินปรับเงินตามที่ระบุในเงื่อน การอ้างว่าสัญญาไอซีทีและสัญญาสาธารณูปโภคช้า แต่ในสัญญาภาคผนวก 16 ซึ่งเป็นเอกสารแนบท้าย ไม่ให้อ้างเหตุอื่น เพราะเป็นคนละสัญญากัน

“วันนี้หากสัญญาไอซีทีมาบอกว่ามาทำให้การก่อสร้างเป็นอุปสรรค แล้วรู้ได้ยังไงว่าจะเป็นอุปสรรค 382 วัน คุณคำนวณมาจากไหน แค่คำนวณมาว่าอีก 382 วัน จะสร้างเสร็จมากกว่า แต่มาอ้างแบบนี้มันไม่ได้”