ลุ้นถกบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ20ธ.ค.นี้ ไฟเขียวงบหมื่นล้าน

ลุ้นถกบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ20ธ.ค.นี้ ไฟเขียวงบหมื่นล้าน

“พลังงาน” ชงบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ 20 ธ.ค.นี้ ไฟเขียวเกณฑ์อนุมัติโครงการปี 2563 วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ก่อนเปิดยื่นคำขอในเดือน ม.ค.ปีหน้า

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน(บอร์ด กองทุนอนุรักษ์ฯ) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้

จะมีการนำเสนอเพื่อขออนุมัติหลักเกณฑ์และเงื่อนไขพิจารณาการยื่นคำขอเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปี งบประมาณ 2563 วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากผ่านการอนุมัติแล้ว คาดว่า จะเริ่มประกาศเปิดยื่นคำขอเสนอโครงการฯได้ในช่วงเดือน ม.ค.2563 และพิจารณาอนุมัติโครงการในเดือน ก.พ. ก่อนทยอยเบิกจ่ายงบประมาณในเดือน มี.ค. ต่อไป

โดยเบื้องต้น หลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดกรองโครงการฯที่จะได้รับเงินสนับสนุน ปี2563 จะเข้มข้นมากขึ้น เช่น โครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นโครงการที่เคยให้งบประมาณสนับสนุนอยู่แต่เดิม จะพิจารณาดำเนินการต่อ เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและช่วยกระตุ้นเศรษกิจในระดับฐานรากอย่างแท้จริง แต่จะต้องปรับรูปแบบให้ครอบคลุมมากขึ้น 

ทั้งนี้ จะประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความร่วมมือให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) เข้ามาร่วมดูแลและคัดกรองโครงการฯ ซึ่งจะต้องมีการลงนามรับรองจากระดับจังหวัด เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาภัยแล้งจริง

รวมทั้งต้องมีเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารรายงานการทดสอบปริมาณน้ำ (นบ.4) และรายงานประวัติบ่อน้ำบาดาล (นบ.5) จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อยืนยันว่าเป็นพื้นที่ที่มีน้ำจริงและต้องใช้ได้ทั้งตำบล สามารถแก้ภัยแล้ง และใช้ปลูกข้าวได้ด้วย

นอกจากนี้ จะเน้นการพิจารณาโครงการฯที่จะสามารถดำเนินการถาวร ด้วยการมีงบประมาณต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการซ่อมบำรุงโครงการฯ ไม่ให้เกิดปัญหาทิ้งล้างโครงการเหมือนเช่นอดีต

นายกุลิศ กล่าวว่า สำหรับการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่มีนายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา เป็นประธาน วานนี้ (11 ธ.ค.) ได้พิจารณาการปรับปรุงโครงสร้างการจัดทำฐานข้อมูล (Big data) เพื่อประเมินผลโครงการฯ อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น

อีกทั้ง ยังได้ประเมินผลการดำเนินงานของนายธนธัช จังพานิช ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผลงานผ่านเกณฑ์การประเมินและสามารถเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

และได้พิจารณาแนวทางที่จะยกระดับ ส.กทอ.ให้เป็นองค์กรมหาชน ต่อไป เพื่อให้เป็นนิติบุคคล และมีโครงสร้างการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่นเดียวกับสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) และป้องกันการไหลออกของบุคลากร

ทั้งนี้ การประชุมบอร์ด กองทุนอนุรักษ์ฯ เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบปรับกรอบการจัดสรรวงเงินงบประมาณ 5ปี(ปี2563-2567) เหลือ 5 หมื่นล้านบาท หรือปีละ 1 หมื่นล้านบาท จากแผนเดิมจัดสรรงบประมาณ5ปี(ปี2560-2564) อยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท หรือปีละ 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อให้กองทุนฯมีเสถียรภาพในการบริหารจัดการ และเตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 16 ธ.ค.นี้ เห็นชอบตามแนวทางดังกล่าว