ติดตามการประชุม FOMC

ติดตามการประชุม FOMC

คาด SET Index แกว่งตัว 1,545 - 1,560 จุด โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเข้าใกล้ 60 US/Barrel

ตลาดหุ้นเมื่อวันจันทร์

SET Index ลดลง 6.03 จุด (-0.39%) ปิดที่ระดับ 1,553 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.1 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะมีแรงซื้อกลุ่มพลังงานและปิโตรฯตามราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น แต่ภาวะตลาดถูกความกังวลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่ไม่แน่นอนและเข้าใกล้ deadline 15 ธ.ค.ที่สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่อีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนยังคงขายลดความเสี่ยงลง โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 735 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 และ Net Short TFEX 3,290 สัญญา แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรต่อเนื่อง 4,347 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET Index แกว่งตัว 1,545 -  1,560 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเข้าใกล้ 60 US/Barrel จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในสัปดาห์นี้จะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล รวมถึงข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนวางแผนที่จะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่วันที่ 15 ธ.ค.วงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์ออกไป อย่างไรก็ตามประเด็นการเจรจาการค้าระห่างสหรัฐ-จีนที่ไม่แน่นอนยังเป็นความกังวลต่อทิศทางการลงทุนซึ่งส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัว นอกจากนี้นักลงทุนจะชะลอการซื้อ/ขายเพื่อติดตามการประชุม FOMC ที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% รวมถึงติดตามคำแถลงเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยในช่วงถัดไป ซึ่งส่งผลให้ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน   

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • BCH, CHG  วันนี้ (11 ธ.ค.) ติดตามการประชุมสปส.ประเด็นการปรับขึ้นค่ารักษาโครงการประกันสังคม
  • กลุ่มพลังงาน ปิโตร PTTEP, TOP, PTTGC, IVL อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบทรงตัวใกล้ 60 US/Barrel
  • กลุ่ม Domestic Play ADVANC, INTUCH, BTS, BEM
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 4Q19 เติบโต ได้แก่ GPSC, CPF, ERW, TASCO, EPG, SAWAD, MTC, JMT, BCH, CHG

หุ้นแนะนำวันนี้

  • BCH (ปิด 17.1 ซื้อ เป้า IAA Consensus 20 บาท) กำไรสุทธิยังเติบโตดี ระยะสั้นยังมี story และ Upside จากประเด็นการขอปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม โดยปกติจะมีการเจรจาเพื่อปรับค่ารักษาพยาบาลกันทุก 2 ปี (BCH ปรับขึ้นราคาครั้งสุดท้าย เมื่อเดือน ก.ค.ปี 2017)
  • IVL (ปิด 32.75 ซื้อ/เป้า 45) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงผลประกอบการที่คาดหวังผลบวกจากการซื้อ Hunstman จะช่วยหนุนให้กำไรของ IVL สูงขึ้นตั้งแต่ 1Q20 (ดีล Hunstman จะเพิ่ม EBITDA ให้ IVL ประมาณ 20% ในปีหน้า)

บทวิเคราะห์วันนี้

Property sector (Top pick: AP, SPALI)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+/-) Trade war ยังไม่แน่นอน ติดตาม 15 ธ.ค.สหรัฐจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่หรือไม่: Trade war ยังคงมีกระแสข่าวออกมาต่อเนื่องเกือบทุกวัน ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวว่าสหรัฐเตรียมชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค.อย่างไรก็ตามนาย แลร์รี คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวและยืนยันว่าสหรัฐจะยังเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนในวันที่ 15 ธ.ค.19 ตามเดิม ดังนั้นเชื่อว่าปัจจัยนี้จะยังเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดจนกว่าจะมีความชัดเจนจากทางสหรัฐในวันที่ 15 ธ.ค.19 ว่าจะมีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนตามที่มีการประกาศไว้หรือไม่
  • (+/-) Fed meeting คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ตามเดิม:  ซึ่งเป็นไปตามที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดออกมาเน้นย้ำหลายครั้งว่าเฟดจะตึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.75% ตามเดิม เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐยังขยายตัวได้ในระดับปานกลาง ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง อัตราการว่างงานยังอยู่ระดับต่ำกว่า 4% ทำให้ระยะสั้นยังไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยลงอีก สอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาด อาทิ CME Group ซึ่งใช้เครื่องมือการซื้อขายอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า (Fed watch) คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงช่วงกลางปีหน้า แนวโน้มดอกเบี้ยที่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเดิมจะช่วยลดแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มธนาคารหลังจากที่ผ่านมาตลาดค่อนข้างกังวลถึงรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตาม กนง.
  • (+/-) อังกฤษกำหนดให้วันที่ 12 ธ.ค.เป็นวันเลือกตั้งทั่วไป ผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของ Brexit: ล่าสุด YouGov รายงานผลสำรวจแนวโน้มผลการเลือกตั้งทั่วประเทศของอังกฤษ พบว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้งและได้ครองเสียงข้างมากในสภาที่ 339 เสียง จากจำนวน ส.ส. หรือ ที่นั่งทั้งหมด 650 เสียง (เสียงข้างมากจะต้องเกิน 326 เสียง) ขณะที่พรรคแรงงานของนาย เจเรมี คอร์บิน ซึ่งเป็นคู่แข่งคาดว่าจะได้คะแนนเสียงเพียง 231 คะแนน หากเป็นไปตามโพลสำรวจของ YouGov การทำ Brexit ของอังกฤษน่าจะเสร็จทันเส้นตายของยูโรโซนในวันที่ 31 ม.ค.2020 แน่นอน และตลาดน่าจะตอบรับในทางบวกเนื่องจาก Brexit ของ บอริส จอห์นสัน ถูกคาดหมายว่าจะเป็นการทำ Brexit แบบประนีประนอม หรือ เป็นแบบมีดีล