ผันผวนไปตามรายงานเจรจาการค้า คาดตลาดหุ้นไทยฟื้นจากแนวรับสำคัญ

ผันผวนไปตามรายงานเจรจาการค้า คาดตลาดหุ้นไทยฟื้นจากแนวรับสำคัญ

ตัวเลขเศรษฐกิจโลกแย่ผสมดี

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษ ต.ค.ปรับตัวขึ้น 0.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2555 ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีดีดตัวสู่ระดับ 10.7 ในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.0 จากระดับ -2.1 ในเดือนพ.ย. ทั้งนี้เรายังให้น้ำหนักกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวในช่วง 3-5 เดือนหน้า เพียงแต่บรรยากาศโดยรวมจะยังมีแรงกดดันตราบใดความเสี่ยงที่อาจกระทบอย่างสงครามการค้าไม่ถูกจัดการ

เจรจาการค้าอาจถอยคนละก้าวลดอัตราภาษีมากกว่ายกเลิกการเก็บ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐไม่มีแนวโน้มที่จะเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นจากสินค้าจีน วงเงิน 1.60 แสนล้านดอลลาร์ที่กำหนดไว้ 15 ธ.ค. ขณะที่หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจ ทำเนียบขาว มองสหรัฐฯ ยังคงพร้อมเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติม ข้อมูลเกี่ยวกับการเจรจายังคงมีความไม่แน่นอน รวมทั้งมีการรายงานอาจจบในรูปแบบของการปรับลดอัตราภาษีที่เรียกเก็บ มากกว่าจะยกเลิกการเรียกเก็บที่เกิดขึ้นแล้ว โดยปัจจัยสำคัญ

ปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ 1) การประชุมเฟด 10-11 ธ.ค. คาดไม่เห็นการลดดอกเบี้ยในเร็ววันจะเป็นปัจจัยผลักดันผลตอบแทนพันธบัตรขึ้น 2) การพิจารณาเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัวของประกันสังคม 11 ธ.ค. คาดส่งผลบวกต่อการเก็งกำไร BCH และ CHG แต่ให้ระวังแรงทำกำไรระยะสั้น ยกเว้นการเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัวมากกว่าตลาดคาดที่ 10% 3) อสังหาริมทรัพย์ เริ่มลงทะเบียนโครงการบ้านดีมีดาวน์ 11 ธ.ค.-31 มี.ค. 4) การเลือกตั้งอังกฤษ 12 ธ.ค. 5) กำหนดการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ ถ้าเห็นการยกเลิกหรือเลื่อนออกไป จะเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงครึ่งหลังของเดือน  

ภาพรวมกลยุทธ์ ยังให้น้ำหนักโอกาสฟื้นตัวจาก 1550-1565 จุด ขณะที่คงมุมมองบวกในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้า จากภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่มุมมองทางเทคนิคยังดูเสี่ยงหากเดือนนี้ไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1580 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ VNT, MINT /เก็งกำไร  BDMS* (เป้า 26, ตัดขาดทุน 24), PTTEP (เป้า 122, ตัดขาดทุน 115)

แนวรับ 1550 จุด / แนวต้าน : 1579 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

Motor expo ปิดงาน ยอดจอง 37,489 คัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 5 หมื่นคัน และต่ำกว่าปีก่อนที่ 4.4 หมื่นคัน

FTSE มีกำหนดปรับน้ำหนักดัชนีวันที่ 20 ธ.ค.62 ดัชนี FTSE All World ไม่มีหุ้นไทยเข้าออก แต่มีการเพิ่มน้ำหนัก BDMS, BTS, TMB ขณะที่ดัชนี FTSE Micro Cap นำหุ้น ILM และ AIMCG เพิ่มในการคำนวณ

การเมือง - กกต.พิจารณาเงินกู้อนาคตใหม่ ซึ่งความเสี่ยงสูงสุดคือผิดเรื่องคริบงำและอาจมีผลถึงยุบพรรค

AOT กระแสข่าวรมว.คมนาคม มีแนวคิดแบ่งค่าธรรมเนียมผู้โดยสารขาเข้า (PSC) 10% เพื่อนำเข้ากองทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยาน

KTCราคาหุ้นแปรับลดลงจากประเด็นธปท.มีแนวคิดรีไฟแนนซ์ลูกหนี้บัตรเครดิต ทั้งนี้จำนวนบัตรเครดิตทั่วประเทศอยู่ที่ 23 ล้านใบ ขณะที่โครงการคาดว่าจะเปิดไม่เกิน 100,000 ราย คิดเป็นเพียง 0.43% ของบัตรทั้งหมด ทำให้ผลกระทบน่าจะจำกัด หากตั้งสมมติฐานให้ลูกค้า KTC เข้าโครงการ 10,000 ราย ที่ดอกเบี้ยต่ำสุด 7% จะกระทบกำไร 115 ลบ. หรือเพียง 1.8%

น้ำตาล – ลอยตัวราคาน้ำตาลส่งผลราคาเพิ่มขึ้น 4 บาท/ก.ก. เป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อหุ้นน้ำตาล อย่างไรก็ตามการเก็งกำไรยังระมัดระวังจากราคาน้ำตาลโลกเฉลี่ยปีหน้าที่ 13-15 เซนต์/ปอนด์ ใกล้เคียงปีนี้ที่ 13-14 เซนต์/ปอนด์ แต่ปริมาณผลผลิตจะลดลงราว 10% ทำให้การฟื้นตัวของราคาอาจไม่ยั่งยืน

ประเด็นติดตาม: 11 ธ.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน พ.ย., OPEC monthly report // 12 ธ.ค. – FOMC meeting // 13 ธ.ค. ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯ // 15 ธ.ค. – ทรัมป์พิจารณาขึ้นภาษีจีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)