กังวลเส้นตายสหรัฐรีดภาษีจีนฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

กังวลเส้นตายสหรัฐรีดภาษีจีนฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร (10ธ.ค.)ในแดนลบ ขณะที่นักลงทุนยังไม่มั่นใจต่อข่าวที่ว่าสหรัฐจะชะลอการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค.

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองในสหรัฐ หลังมีข่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมลงมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 27.88 จุดหรือ 0.1% ปิดที่ 27,881.72 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 3.44 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 3,132.52 และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 5.64 จุดหรือ 0.07% ปิดที่ 8,616.18 จุด

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า สหรัฐจะชะลอการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งที่ผ่านมา สหรัฐกำหนดเส้นตายในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งจะมีการเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ยืนยันที่จะตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นกัน

วอลล์สตรีท เจอร์นัล ยังระบุว่า เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าของสหรัฐเรียกร้องจีนให้คำมั่นสัญญาที่จะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะมีการบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่จีนต้องการให้การซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐมีสัดส่วนสอดคล้องกับการที่สหรัฐยกเลิกการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐต้องการให้มีการทบทวนทุกรายไตรมาสเพื่อรับรองว่าจีนได้ซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐตามที่ได้ตกลงกันไว้

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า สหรัฐและจีนไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกในสัปดาห์นี้ โดยบอกว่า โอกาสที่สหรัฐจะบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนได้ริบหรี่ลง ขณะที่สหรัฐกำลังให้ความสนใจต่อการบรรลุข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (ยูเอสเอ็มซีเอ)

ด้านคณะกรรมาธิการตุลาการประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐประกาศญัตติเกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้ โดยมี 2 ญัตติ ได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสภาคองเกรส