ฟื้นตัวตามรอบบ้าน

ฟื้นตัวตามรอบบ้าน

คาด SET Index รีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,565 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดีดตัวขึ้นตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

SET Index ลดลง 6.46 จุด (-0.41%) ปิดที่ระดับ 1,559 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุนการลงทุน ประกอบกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนยังไม่แน่นอนส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติยังคงไหลออกต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีความกังวลธปท.ออกกฏคุมรายได้ค่าธรรมเนียมเป็นแรงกดดันต่อภาวะอีกด้วย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 1,615 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 และ Net Short TFEX 9,937 สัญญา แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรต่อเนื่อง 2,208 ล้านบาท 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลาง-บวก คาด SET Index รีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,565 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดีดตัวขึ้นตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 2.6 แสนตำแหน่ง อัตราการว่างงานลดลงต่ำสุดในรอบ 50 ปีที่ 3.5% ส่งผลให้ US Bond yield 10 ปีดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1.84% ซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นหลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 5 แสนบาร์เรล/วัน รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วันจะเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานอีกด้วย อย่างไรก็ตามการเจรจาการค้าระห่างสหรัฐ-จีนที่ยังมีความไม่แน่นอนซึ่งหากตกลงไม่ทัน deadline 15 ธ.ค.สหรัฐมีโอกาสจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นรอบใหม่วงเงิน 1.6 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงล่าสุดตัวเลขส่งออกของจีนเดือนพ.ย. -1.1% yoy ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 จากผลกระทบ Trade war จะเป็นแรงกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มพลังงาน ปิโตร PTTEP TOP PTTGC IVL อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
  • กลุ่ม Domestic Play ADVANC, INTUCH, BTS, BEM
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 4Q19 เติบโต ได้แก่ GPSC, CPF, ERW, TASCO, EPG, SAWAD, MTC, JMT, BCH, CHG
  • กลุ่ม Dividend Stock: KKP, TISCO, TTW

หุ้นแนะนำวันนี้

  • IVL (ปิด 32.5 ซื้อ/เป้า 45) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงผลประกอบการที่คาดหวังผลบวกจากการซื้อ Hunstman จะช่วยหนุนให้กำไรของ IVL สูงขึ้นตั้งแต่ 1Q20 (ดีล Hunstman จะเพิ่ม EBITDA ให้ IVL ประมาณ 20% ในปีหน้า)
  • CPF (ปิด 26.5 ซื้อ/เป้า 33.5) ทยอยสะสมมองราคาหุ้นลดลงสะท้อนข่าวแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์หมูแอฟริกาไปแล้ว ขณะที่ปัจจุบันราคาหมูในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากระดับ 55 บาทต่อ ก.ก. เป็น 64 บาทต่อก.ก. เช่นเดียวกับราคาหมูเวียดนามที่ฟื้นตัวขึ้นกว่าเท่าตัวจากระดับ 33,000 ดองต่อ ก.ก. ขึ้นเป็น 60,000 ดองต่อก.ก. ในปัจจุบันคาดว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการ 3Q19 และ 4Q19 ฟื้นตัว

บทวิเคราะห์วันนี้

Macro Strategy (จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 337.27 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด: ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,015.06 จุด พุ่งขึ้น 337.27 จุด หรือ +1.22% หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดโดยเพิ่มขึ้น 266,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานเดือนพ.ย. ลดลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี จากระดับ 3.6% ในเดือนต.ค. นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้า (สวนทางกับสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า)
  • (+) น้ำมัน WTI ปิดบวก 77 เซนต์ ขานรับโอเปกปรับลดการผลิตน้ำมัน: สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. บวก 77 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 59.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ตอบรับโอเปกและประเทศพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรล/วัน รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. 2563 จากเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
  • (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม (10-11 ธ.ค.) การประชุม FOMC คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75%: ตามการส่งสัญญาณของนายเจอ โรมพาวเวล ที่ยังมั่นใจกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง  (11 ธ.ค.) การประชุมสปส.ประเด็นการปรับขึ้นค่ารักษาโครงการประกับสังคม