Rebound

Rebound

ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปิดปรับตัวลงต่อเนื่อง เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่เข้าหนุน ประกอบกับสถานการณ์การเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนยังคงมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายเริ่มเบาบางลงจากการเข้าสู่ช่วงวันหยุด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,558.99 จุด (-6.46 จุด) Volume 4.1 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,614.51 ลบ. TFEX Net  -9,937 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 337.27 จุด +1.22% ขานรับข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด และความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 77 เซนต์ +1.3% ปิดที่ 59.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับกลุ่มโอเปกและพันธมิตรลงมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าคาด

+จีนเผยยอดการค้าระหว่างประเทศช่วง 11 เดือนแรก เพิ่มขึ้น 2.4%

+จีนเตรียมยกเว้นภาษีนำเข้าถั่วเหลืองและเนื้อหมูจากสหรัฐฯ

+ญี่ปุ่นเผย GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 1.8% รับอานิสงส์การลงทุนภาคเอกชนสดใส

 +ครม.ญี่ปุ่นไฟเขียวมาตรการกระตุ้นศก.วงเงิน 26 ล้านล้านเยนหรือประมาณ 2.39 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อฟื้นฟูศก.และรับมือผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อเดือนต.ค.

-ที่ปรึกษาแบงก์ชาติจีนคาดเศรษฐกิจจีนอาจขยายตัวต่ำกว่า 6% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า

-ปธน.ทรัมป์เรียกร้องเวิลด์แบงก์หยุดปล่อยเงินกู้ให้กับจีน

-ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคพ.ย.ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ต่ำสุดรอบ 67 เดือน จากกังวลศก.-การเมืองในประเทศ

-บอร์ดค่าจ้าง เคาะขึ้นค่าแรงปี 63 ทั่วประเทศ 5-6 บาท สูงสุดภูเก็ต-ชลบุรี 336 บาท เตรียมเสนอที่ประชุมครม. หากอนุมัติจะมีผล 1 ม.ค.63 กดดันผลประกอบการธุรกิจที่ใช้แรงงานในสัดส่วนสูง

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -2.7 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.35 บาท/US

*จับตาจีนเผยดัชนี CPI และ PPI เดือนพ.ย.เช้านี้ และสหรัฐเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนพ.ย. EU เผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนธ.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดโลก โดยมีแรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าสหรัฐ-จีนใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งก่อนหน้าคาดว่าจะล้าช้าออกไปถึงพ.ย.20 คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,555-1,575 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. (TACC TNP JUBILE)
  • หุ้น Defensive Stock (TTW BH BCPG BEM)
  • หุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุน LTF (AOT CPALL PTT ADVANC BBL)

หุ้นรายงานพิเศษ

MGT แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 2.66 บาท

ผลประกอบการได้อานิสงส์จากบาทแข็ง

9M19 มีกำไรเท่ากับ 51 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของประมาณการทั้งปี  โดยเราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 19 ที่ 70 ล้านบาท เติบโต +42.1%YoY

คาดผลประกอบการปี 20 ยังเติบโตได้ดีจากการเน้นเพิ่มยอดขายในกลุ่ม Lifestyle Biotech ที่มีทิศทางการเติบโตที่ดี ประกอบกับได้เพิ่มสินค้าใหม่คือ Heat transfer ที่ใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี  เราคาดรายได้ปี 20 ที่ระดับ 783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +7%YoY และ ประมาณการกำไรสุทธิปี 20 เท่ากับ 76 ล้านบาท เติบโต +8.4%YoY

MGT เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า ประกอบกับผลประกอบการยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 20 ที่ 2.66 บาท อิงค่าเฉลี่ย PER ที่ 14 เท่า พร้อมคาด Dividend Yield ปี20 ราว 5.71%

ส่องหุ้น

            HANA       แนวรับ 31.50-31.25 บาท        แนวต้าน 32.75-33.00 บาท

            MITSIB     แนวรับ 1.56-1.54 บาท           แนวต้าน 1.58-1.59 , 1.62 บาท

            SUSCO     แนวรับ 2.92-2.90 บาท           แนวต้าน 2.98-3.00 , 3.08 บาท

หุ้นมีข่าว   

·       (+) RATCH (Bloomberg Consensus 74.56 บาท) เซ็นสัญญาสร้างทางด่วนพระราม 3 รับงานเพิ่มอีก 6.6 พันล้านบาทแล้ว กทพ.คาด อีก 1 เดือน เริ่มเข้าพื้นที่มีความพร้อมจ่ายเงินก้อนแรกทันที 10% ของมูลค่าสัญญา (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) DTAC (Bloomberg Consensus 59.64 บาท)  จับมือ Google พันธมิตรระดับโลก ส่งตรงโซลูชั่น Android Enterprise/Zero-Touch สู่ตลาดลูกค้าองค์กร ช่วยให้องค์กรติดตั้งค่าเริ่มต้น ระบบการจัดการและแอปพลิเคชันต่างๆ ลงบนสมาร์ตโฟนไม่เสียเวลาดำเนินธุรกิจหลัก (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) BJCHI (Bloomberg Consensus 2.43 บาท) ลุ้นชนะประมูลงานเหมืองแร่ ออสเตรเลีย ดันรายได้ปี 63 แตะ 3.3 พันล้านบาท ล่าสุดโชว์แบ็กล็อกแน่น 3.5 พันล้าน หนุนปี 62 รายได้เข้าเป้า 2.3 พันล้านบาท ยิ้มรับพลิกมีกำไรในรอบ 3 ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) BJC (Bloomberg Consensus 54.21 บาท) วางเป้าปี 63 โตต่อเนื่อง ทุ่ม 10,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจเตาแก้ว-สาขาบิ๊กซีในและต่างประเทศ เน้นรุก CLMV ส่งมินิ บิ๊กซี เข่าย่านชุมชน ขณะที่ผลงานไตรมาส 4/62 เด้งรับไฮซีซั่น หนุนปี 62 ยอดขายเพิ่ม 4-5% ตามแผน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·       (+) DELTA (Bloomberg Consensus 49.33 บาท) ปี 2563 เล็งบุกตลาดญี่ปุ่น เพิ่มสินค้าเกี่ยวกับ IOT - รถยนต์ EV ลุ้นเงินบาทอ่อนค่า หวังลดผลกระทบธุรกิจ ฟากโบรกชี้ ผลงานปี 2562 ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แนวโน้มไตรมาส 4 มีแววฟื้น วางกรอบอนาคตโตแกร่ง เหตุธุรกิจ 5G และ EV หนุน (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+) BTS (Bloomberg Consensus 15.23 บาท) ประกาศเอาจริง ลงชิงรถไฟฟ้า-มอเตอร์เวย์ พร้อมประมูลสายสีส้ม มั่นใจคว้าอู่ตะเภา ด้านมอเตอร์เวย์คาดลงนามต้นปี 2563 เตรียมประมูลรางคู่สถานีตากสิน รอครม.อนุมัติสายสีเขียวอีก 30 ปี ยืนยันไม่เพิ่มทุนใน 3 ปี ขณะที่เปิดรถไฟฟ้า 4 สถานีผลตอบรับดี ดันผู้โดยสารโต 5% งบครึ่งหลังปี 2563 ดีกว่าครึ่งแรก (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+) RJH (Bloomberg Consensus 30.70 บาท)  แย้ม Q4/2562 ฟอร์มแจ่ม อานิสงส์ยอดผู้ใช้บริการขยายตัว เอ็มดี "สุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ" วางหมากปี 2563 รายได้โต 10-15% รับค่ารักษา-ฐานผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง เล็งทุ่มงบลงทุน 850 ล้านบาท รีโนเวต-ปั้นโรงพยาบาลใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+) STEC (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 21.97 บาท)ได้รับการขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่อีก 382 วัน จาก 16 ธ.ค. 62-31 ธ.ค. 63 เป็นตามข้อกำหนดตามสัญญา (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)