'เพชรเกษม 48-ภาษีเจริญ' ทำเลดาวรุ่งตอบรับกระแสฮอต 'บลู ไลน์'

'เพชรเกษม 48-ภาษีเจริญ' ทำเลดาวรุ่งตอบรับกระแสฮอต 'บลู ไลน์'

การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งอย่างรถไฟฟ้า ทำให้เมืองขยายตัวมากขึ้น การลงทุนด้านที่อยู่อาศัยก็ขยายตามไปด้วย เช่นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่สร้างปรากฏการณ์ทำเลทองแห่งใหม่ขึ้นมาอย่างบริเวณเชรเกษม 48-ภาษีเจริญ

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง เปิดให้บริการไปแล้ว และได้สร้างความคึกคักให้กับผู้คนในพื้นที่ตามแนวเส้นทางในระดับหนึ่ง เพราะว่าก่อนหน้านี้คนในย่านดังกล่าวต้องนั่งรถประจำทาง หรืออะไรก็ตามมาขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีบางหว้า แต่เมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิดให้บริการถึงสถานีหลักสองคนจำนวนมากที่เคยใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีบางหว้าก็เปลี่ยนไปใช้สายสีน้ำเงิน โดยตู้โดยสารของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนั้นเต็มตั้งแต่สถานีหลักสองซึ่งเป็นสถานีต้นทาง ในขณะที่สถานีบางหว้านั้นก็ยังคงมีคนใช้บริการมากอยู่เพียงแต่มีความหนาแน่นของผู้โดยสารลดลง แสดงให้เห็นถึงความนิยมของคนในพื้นที่และคนที่อยู่อาศัยในพื้นที่โดยรอบที่ไกลออกไป

ทำเลที่มีการแข่งขันกันสูง คือตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง จำนวน 11 สถานี ได้แก่ วัดมังกร สามยอด สนามไชย อิสรภาพ ท่าพระ บางไผ่ บางหว้า เพชรเกษม 48 ภาษีเจริญ บางแค และหลักสอง ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการครบทุกสถานี ก็ผลักดันให้ทำเลนี้กลายเป็นทำเลดาวรุ่งขึ้นมาทันที

เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในทำเลจรัญสนิทวงศ์ เพชรเกษม โดยพบว่า ตลอดระยะเวลาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 ถึงเดือนกันยายน 2562 เห็นได้ชัดเจนว่าบนถนนเพชรเกษมตามแนวรถไฟฟ้ามีคอนโดมิเนียมใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันมีจำนวนคอนโดที่เปิดขาย 20,000 ยูนิต ในจำนวนนี้กว่า 90% เป็นคอนโดที่อยู่บนถนนเพชรเกษม

157588775182

  • 'เพชรเกษม' บูมสุดในย่านฝั่งธนฯ

พื้นที่รอบ สถานีรถไฟฟ้าตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-หลักสองมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดของกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ตามแนวเส้นทางช่วงหัวลำโพง-สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย จึงมีผลให้มีโครงการคอนโดมิเนียมหรือโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่มากนัก แต่เมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าข้ามไปฝั่งธนบุรีแล้วจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าเพชรเกษม 48 และสถานีรถไฟฟ้าภาษีเจริญ ซึ่งเป็น 2 สถานีรถไฟฟ้าของสายสีน้ำเงินที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจำนวนโครงการและจำนวนยูนิตอาจจะยังเทียบไม่ได้กับพื้นที่รอบ สถานีรถไฟฟ้ารัชโยธิน หัวหมาก เป็นต้น แต่ก็ถือได้ว่ามีจำนวนมากที่สุดในพื้นที่ฝั่งธนบุรี   

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในพื้นที่โดยรอบ สถานีรถไฟฟ้าเพชรเกษม 48 และภาษีเจริญรวมแล้วกว่า 7,773 ยูนิต เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,700 ยูนิต ถึง 3 โครงการ บางโครงการมีจำนวนมากกว่า 2,000 ยูนิตเลยก็มี โครงการทั้งหมดที่เปิดขายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาขายไปได้ประมาณ 65% อาจจะดูไม่สูงมากเพราะเพิ่งจะมีโครงการขนาดใหญ่เปิดขายในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

157604971083

อัตราการขายเฉลี่ยในพื้นที่นี้จึงไม่สูงมาก แต่ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่ไม่สูงเกินไป คือ 87,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) อีกทั้งมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ตลาดสด สถานศึกษาหลายระดับ และการเดินทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่าง ของกรุงเทพฯ ที่สะดวกมากทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารสาธารณะ และรถไฟฟ้า จึงมีผลให้ทำเลนี้เป็นที่สนใจของผู้ประกอบการในระยะยาว

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการหลายรายยังไม่เร่งรีบเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ เพราะกำลังซื้อของคนฝั่งธนบุรียังคงเทียบไม่ได้กับในฝั่งพระนคร เพราะยังคงมีที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านจัดสรรทั้งมือ 1 และมือ 2 ที่ราคาขายไม่สูงเกินไปอยู่ในระยะทางที่ไม่ไกลจากโครงการคอนโดมิเนียมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ผู้ซื้อส่วนหนึ่งจึงยังคงไม่ตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมแต่เลือกบ้านจัดสรรที่แม้จะไกลออกไปแต่มีที่ดินเป็นของตนเอง และในระยะยาวมีแนวโน้มที่จะปรับราคาขึ้นไปได้มากกว่าคอนโดมิเนียมเพราะที่ดินหาได้ยากมากขึ้นในปัจจุบัน