'ทรัมป์' เรียกร้องเวิลด์แบงก์หยุดปล่อยกู้รัฐบาลปักกิ่ง

'ทรัมป์' เรียกร้องเวิลด์แบงก์หยุดปล่อยกู้รัฐบาลปักกิ่ง

ประธานาธิบดีทรัมป์ เรียกร้องธนาคารโลกยุติการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่จีนทันที ชี้เป็นเรื่องไม่ควรทำ เหตุรัฐบาลปักกิ่งมีเงินมากมาย ด้านขุนคลังสหรัฐ เรียกร้องธนาคารโลกถอดจีนออกจาก ไอบีอาร์ดี ที่มีเป้าหมายช่วยเหลือประเทศยากจน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เรียกร้องเมื่อวันศุกร์ (6ธ.ค.)ให้ธนาคารโลกยุติการปล่อยกู้แก่รัฐบาลปักกิ่ง หลังจากธนาคารโลกอนุมัติสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่จีน เป็นวงเงินระหว่าง 1,000 ถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ต่อปี ( ประมาณ 30,356 ถึง 45,534 ล้านบาท ) จนถึงเดือนมิ.ย. ปี2568 ตามคำร้องของรัฐบาลปักกิ่ง

ภายใต้กรอบความร่วมมือของธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการฟื้นฟูและการพัฒนา ( ไอบีอาร์ดี ) ที่เป็นหนึ่งในองค์กรภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารโลก เพื่อให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาของประเทศที่มีฐานะปานกลาง

“ทำไมธนาคารโลกต้องปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่จีน มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ จีนมีเงินมากมายและถ้าไม่มีจีนก็สามารถหามาได้ หยุดเลย!”ข้อความในทวิตเตอร์ของทรัมป์ ระบุ

ถ้อยแถลงของทรัมป์ผ่านทวิตเตอร์ เป็นการย้ำจุดยืนของคณะบริหาร ที่เคยมีนายเดวิด มัลพาส เป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกเป็นประธานธนาคารโลกคนปัจจุบัน

อีกทั้งถ้อยแถลงของทรัมป์ถึงธนาคารโลก ยังถูกตอกย้ำจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ที่แจ้งต่อคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดี (5ธ.ค.)ว่าสหรัฐคัดค้านแผนการเงินกู้หลายปีและโครงการต่างๆ ในจีนของธนาคารโลก

ด้านธนาคารโลก ให้เหตุผลเกี่ยวกับการอนุมัติสินเชื่อที่สูงถึงกว่า 45,000 ล้านบาทต่อปีให้แก่จีน ในฐานะประเทศที่มีฐานะปานกลางว่า เป็นการบ่งชี้ถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย แม้ว่า่สหรัฐ ซึ่งเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดขององค์กรระหว่างประเทศแห่งนี้ จะไม่พอใจอย่างรุนแรง

บอร์ดบริหารธนาคารโลก ที่กรุงวอชิงตัน มีมติในสัปดาห์นี้ อนุมัติสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่จีน เป็นวงเงินระหว่าง 1,000 ถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ไปจนถึงเดือนมิ.ย. ปี 2568 ตามคำร้องของรัฐบาลปักกิ่งตามกรอบความร่วมมือของธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการฟื้นฟูและการพัฒนา ( ไอบีอาร์ดี )

นายมาร์ติน ไรเซอร์ ผู้อำนวยการเวิลด์แบงก์ประจำประเทศจีน ยืนยันว่าการปล่อยกู้ครั้งนี้เป็นการสะท้อนพัฒนาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างเวิลด์แบงก์กับรัฐบาลปักกิ่ง แต่นับจากนี้เป็นต้นไป ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายจะเป็นไปด้วยความระมัดระวังมากขึ้น

สอดคล้องกับรายงานที่เวิลด์แบงก์เผยแพร่ประกอบการอนุมัติสินเชื่อจากไอบีาร์ดีให้แก่จีน ว่า วงเงินที่จีนได้รับลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของเวิลด์แบงก์ ยังคงไม่พอใจ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มองว่า จีนเป็นประเทศที่ร่ำรวยแล้ว เวิลด์แบงก์จึงควรยุติการให้จีนกู้เงินตามกรอบความร่วมมือไอบีอาร์ดีอย่างไม่มีเงื่อนไข

ส่วนมนูชิน รมว.กระทรวงการคลังสหรัฐ เรียกร้องให้เวิลด์แบงก์ถอดจีนออกจากไอบีอาร์ดี ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือประเทศยากจนอย่างแท้จริง

ขณะที่นายชาร์ลส แกรสส์ลีย์ ประธานคณะกรรมาธิการการเงินของวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า ธนาคารซึ่งใช้ภาษีของชาวอเมริกันเป็นหลัก ไม่ควรสนับสนุน ประเทศร่ำรวยที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของพลเมือง และพยายามสร้างอิทธิพลทางทหารและเศรษฐกิจเหนือประเทศที่มีขนาดเล็กกว่า

นอกจากนี้ มีรายงานว่า สภาคองเกรสกำลังพิจารณากฎหมายควบคุมการให้ความช่วยเหลือของธนาคารโลกต่อจีน