ราคาน้ำมันดิบทะยานหลังโอเปกลดการผลิตมากกว่าคาด

ราคาน้ำมันดิบทะยานหลังโอเปกลดการผลิตมากกว่าคาด

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันศุกร์(6ธ.ค.)ทะยาน 1.3% ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรที่ได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ราคา 59.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 1.6% ปิดที่ราคา 64.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

โอเปกแถลงในวันนี้ว่า โอเปกและประเทศพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.63

ทั้งนี้ โอเปกและประเทศพันธมิตร นำโดยรัสเซีย มีมติดังกล่าวในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในวันนี้

นอกจากนี้ โอเปกและประเทศพันธมิตรจะจัดการประชุมเพื่อทบทวนนโยบายการผลิตในวันที่ 5-6 มี.ค.63

นักวิเคราะห์ ระบุว่า สหรัฐจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจากการปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าว โดยขณะนี้ สหรัฐเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก โดยผลิตได้ 12.3 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากระดับ 11 ล้านบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว โดยมีการผลิตน้ำมันมากกว่าซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย

ก่อนหน้านี้ โอเปกได้บรรลุข้อตกลงกับรัสเซีย และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอีก 9 ประเทศในการประชุมเมื่อเดือนก.ค. เห็นพ้องขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.63 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยปรับลดกำลังการผลิตในอัตราเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งสวนทางกับที่เขาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า

นักลงทุนยังผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่จีนระบุว่าจะมีการยกเว้นภาษีถั่วเหลืองและเนื้อหมูบางส่วนที่นำเข้าจากสหรัฐ