ตัวเลขจ้างงานสดใสหนุนดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด

ตัวเลขจ้างงานสดใสหนุนดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (6ธ.ค.)ทะยานกว่า 300 จุด ขานรับตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ รวมทั้งคาดการณ์ในเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 337.27 จุด หรือ 1.22% ปิดที่ 28,015.06 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 28.48 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 3,145.91 จุดและดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 85.83 จุด หรือ 1% ปิดที่ 8,656.53 จุด

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาด หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 266,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 187,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี จากระดับ 3.6% ในเดือนต.ค.

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนพ.ย.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการกลับเข้าทำงานของพนักงานบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ที่ได้ผละงานก่อนหน้านี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนพ.ย. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 12,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งสวนทางกับที่เขาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่จีนระบุว่าจะมีการยกเว้นภาษีถั่วเหลืองและเนื้อหมูบางส่วนที่นำเข้าจากสหรัฐ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้