LPH - ถือ

LPH - ถือ

มองว่าแย่สุดแล้วในปี 2562

Event

ปรับประมาณการกำไร และราคาเป้าหมาย

lmpact

กำไรสุทธิงวด 9M62 ถูกฉุดโดยรายการพิเศษ

จากผลประกอบการของ LPH ในงวด 9M62 ทำให้เราเห็นว่า ประมาณการกำไรปีนี้ของเรามี downside จากรายการพิเศษ ได้แก่ i) การกันสำรองเผื่อผลประโยชน์ของพนักงานใน 2Q62 และ ii) มีการปรับรายการใน 3Q62 ที่เกิดจากส่วนต่างของ AdjRW ที่บันทึกไว้ในอดีต นอกจากนี้ กำไรสุทธิของ LPH ใน 9M62 ยังคิดเป็นแค่ 64% ของประมาณการกำไรเดิมในปีนี้ของเรา ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการของบริษัทปีนี้จึงน่าจะออกมาต่ำกว่าที่เราคาดไว้ เนื่องจากผลการดำเนินงานใน 4Q62 มักจะลดลง QoQ ตามฤดูกาล แต่อย่างไรก็ตาม กำไรจากธุรกิจหลักของบริษัทยังคงเป็นไปตามที่เราคาดเอาไว้อยู่ เพราะเราคาดไว้อยู่แล้วว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจะถูกกระทบในช่วงที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

ปรับลดประมาณการกำไรลง

ผลประกอบการงวด 9M62 ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 ลง 16.9% เหลือ 102 ล้านบาท (-34.7% YoY) เพื่อสะท้อนถึง i) อัตราการเติบโตของรายได้ที่ลดลงจากเดิม 5.8% เหลือ 1.54 พันล้านบาท ii) อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเหลือ 24.3% (จากเดิมที่ 24.5%) iii) สัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่คุมได้ดีที่ 14.5% (จากที่เคยคาดไว้ 15.8%) และ iv) ผลลบจากรายการพิเศษ 27 ล้านบาทใน 3Q62 นอกจากนี้ เรายังคงคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทในปี 2563F จะอยู่ที่ 135 ล้านบาท (+32.1% YoY) ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่เราปรับสมมติฐานอัตราการเติบโตของยอดขายอัตรากำไรขั้นต้น และสัดส่วน SG&A/ยอดขาย โดยไม่ได้มีการปรับสมมติฐานรายการพิเศษในปี 2563F

มีโอกาสได้ปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลประกันสังคม

เราคิดว่าสำนักงานประกันสังคมมีโอกาสจะได้ปรับเพิ่มอัตราค่ารักษาพยาบาลตามโครงการประกันสังคมขึ้นอีกอย่างน้อย 5% จากเดิมที่หัวละ 1,500 บาท/ปี ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เนื่องจาก i) เป็นรอบที่เหมาะสมหลังจากผ่านมากว่า 2 ปีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 ii) ค่ารักษาพยายาลประกันสังคมในปัจจุบันที่ 1,500 บาท/หัว/ปี ต่ำกว่าของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ 3,600 บาท/หัว/ปี ในปีหน้า เราคาดว่าอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ขยับเพิ่มขึ้นทุก ๆ 1% จะทำให้รายได้ของ LPH เพิ่มขึ้น 0.38% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเกือบ 2.2% ซึ่งจะทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 2.4%

Valuation & Action

หลังจากที่ปรับประมาณการกำไรแล้ว ราคาเป้าหมายของ LPH ในปี 2563 จึงลดลงมาอยู่ที่ 5.45 บาท (DCF; WACC ที่ 8% และ TG ที่ 3.0%) จากเดิมที่ 6.80 บาท นอกจากนี้ เรายังได้ตัดบางโครงการ (ได้แก่ โครงการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และโรงพยาบาลลำลูกกา) ออกไปจากประมาณการของเรา เนื่องจากความไม่แน่นอนของโครงการ ซี่งโครงการดังกล่าวมีส่วนสร้างรายได้และกำไรให้กับ LPH ประมาณ 8% และ 10% ในประมาณการต่อปีระยะยาว เรายังคงคำแนะนำ ถือ LPH

Risks

การแทรกแซงของรัฐบาล, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ของไทย, การก่อการร้ายครั้งใหญ่