ไทยติด 'ท็อป 10' ศัลยกรรมความงามสูงสุดในโลก

ไทยติด 'ท็อป 10' ศัลยกรรมความงามสูงสุดในโลก

ผลสำรวจการเสริมความงามในยุคปัจจุบัน ประจำปี 2561 พบว่า ไทยติด 10 อันดับแรกทำศัลยกรรมมากที่สุดในโลก ขณะที่ตัวเลขของผู้เสริมความงามทั่วโลก เพิ่มขึ้นถึง 5.4%

สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (ISAPS) เผยผลการสำรวจการทำศัลยกรรมความงามทั่วโลกในปี 2561 พบว่า การรักษาโดยไม่ผ่าตัด อาทิ การฉีดฟิลเลอร์ ปรับตัวขึ้น 10.4% ซึ่งมากกว่าการศัลยกรรมโดยใช้วิธีผ่าตัดที่ลดลง 0.6%

ขณะที่การเสริมหน้าอกโดยใช้ถุงเต้านมเทียมได้รับความนิยมจนติดอันดับแรกในกลุ่มการศัลยกรรมที่มีผู้ทำมากที่สุด โดยปรับตัวขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และทะยานขึ้น 27.6% เมื่อเทียบกับปี 2557 ส่วนการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมโดยมีส่วนเพิ่มมากที่สุด คือการผ่าตัดดูดไขมันและการผ่าตัดยกกระชับหน้าท้อง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 9% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ การฉีดโบท็อกซ์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ถึง 17.4% ตามมาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ด้วยกรดไฮยาลูโรนิคซึ่งเพิ่มขึ้น 11.6%

  • 10 ประเทศศัลยกรรมความงามสูงสุด

2 ประเทศแรก คือ สหรัฐและบราซิล ครองสัดส่วนการศัลยกรรมความงามคิดเป็น 28.4% ของการทำศัลยกรรมทั่วโลก ตามมาด้วยอีก 8 ประเทศที่เหลือ ได้แก่ เม็กซิโก เยอรมนี อินเดีย อิตาลี อาร์เจนตินา โคลอมเบีย ออสเตรเลีย และไทยที่เข้ามาติดอันดับ 10 ของโลก

สำหรับไทย มีการศัลยกรรมความงามด้วยการผ่าตัด 105,105 ครั้ง ศัลยกรรมโดยไม่ผ่าตัด 35,018 ครั้ง รวมทั้งหมดกว่า 140,000 ครั้ง คิดเป็นสัดส่วน 0.6% ของการทำศัลยกรรมทั่วโลกในปี 2561

157564276372

ทั้งนี้ บราซิลแซงขึ้นครองแชมป์ประเทศที่มีการศัลยกรรมความงามด้วยการผ่าตัดสูงที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐครองแชมป์ชาติที่มีการศัลยกรรมโดยไม่ผ่าตัดมากที่สุดในโลก

  • ความแตกต่างทางเพศ

ผู้หญิงยังคงมีสัดส่วนการศัลยกรรมมากกว่าผู้ชาย คิดเป็นสัดส่วน 87.4% หรือกว่า 20.33 ล้านครั้ง ส่วนการศัลยกรรมของผู้ชายมีสัดส่วน 12.6% ในปี 2561 หรือ 2.935 ล้านครั้ง

การศัลยกรรมแบบผ่าตัดยอดนิยมในกลุ่มผู้หญิงคือการศัลยกรรมหน้าอก โดยมีการศัลยกรรมมากถึง 1.841 ล้านครั้ง ส่วนการศัลยกรรมโดยไม่ใช้การผ่าตัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการฉีดโบท็อกซ์ที่ 5.344 ล้านครั้ง สำหรับการศัลยกรรมแบบผ่าตัดยอดนิยมในกลุ่มผู้ชายคือการผ่าตัดเต้านมกว่า 269,000 ครั้ง ส่วนการศัลยกรรมโดยไม่ใช้การผ่าตัดยอดนิยมของกลุ่มผู้ชายคือการฉีดโบท็อกซ์ที่กว่า 752,000 ครั้ง

ดร.เดิร์ก ริชเตอร์ ประธานของ ISAPS กล่าวว่า นับเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ได้เห็นตลาดศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยการรักษาต่าง ๆ มีแผลผ่าตัดน้อยลงมาก ตามตัวเลขที่แสดงในผลการสำรวจนี้

  • เตือนภัยฉีดฟิลเลอร์โดยสถาบันฯที่ไม่ใช่แพทย์

อย่างไรก็ตาม ริชเตอร์ กล่าวเตือนถึงการฉีดฟิลเลอร์โดยพนักงานในสถาบันเสริมความงามที่ไม่ใช่แพทย์ หรืออาจเป็นแพทย์ที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมมาโดยเฉพาะ หลังพบภาวะแทรกซ้อนมากขึ้นทั่วโลก

"แม้การศัลยกรรมหน้าอกมักจะเป็นประเด็นที่สื่อนำมาตีข่าวอยู่เรื่อย ๆ แต่สิ่งนี้ก็ยังเป็นการทำศัลยกรรมที่เติบโตดีที่สุดในโลก อีกทั้งคนไข้ยังตระหนักถึงคุณประโยชน์มากมาย เราคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะทำสถิติอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งจะพิสูจน์ให้เห็นว่าคนไข้กำลังได้ประโยชน์จากนวัตกรรมล่าสุดในการศัลยกรรมความงาม เพื่อให้ตัวเองสวยขึ้นและรู้สึกดีขึ้น" ริชเตอร์กล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลการสำรวจจากทั่วโลกได้รับการเรียบเรียงหลังจากที่ได้สอบถามศัลยแพทย์พลาสติกราว 35,000 คนในฐานข้อมูลของ ISAPS

แบบสอบถามดังกล่าวได้เน้นไปที่จำนวนการทำศัลยกรรมทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัดในปี 2561 รวมถึงคำถามที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ โดยผลลัพธ์ดังกล่าวได้รับการรวบรวม เรียบเรียง และวิเคราะห์โดย Industry Insights บริษัทวิจัยอิสระในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอของสหรัฐ