ประเด็นเจรจาการค้ายังต้องติดตามการขึ้นภาษี 15 ธ.ค.

ประเด็นเจรจาการค้ายังต้องติดตามการขึ้นภาษี 15 ธ.ค.

ยังคงมุมมองสงครามการค้าไม่เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่

ข้อมูลสงครามการค้ายังสับสน เนื่องจากในระดับของผู้เจรจายังมีการหารืออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้แม้การบรรลุข้อตกลงการค้าอาจล่าช้า แต่ยังไม่กระทบต่อมุมมองการลงทุนของเรา ตราบใดที่สงครามการค้าไม่ได้ยกระดับความรุนแรงมากขึ้น จนอาจส่งผลกระทบต่อโมเมนตัมการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายประเทศที่กำลังเกิดขึ้น ดังนั้นประเด็นจับตาที่สำคัญคือการเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถึงกำหนดในวันที่ 15 ธ.ค.

หุ้นไทยช่วงสั้นอ่อนแอกว่าภูมิภาคแต่ต้นปีจะดีขึ้น การอ่อนแอเกิดจากภาพการบริโภคที่เติบโตในอัตราชะลอตัวลงจากราคาสินค้าเกษตรและการส่งออกที่อ่อนแอ รวมถึงความล่าช้าของงบประมาณ 2563 ที่กว่าเม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบก็จะเป็นในช่วงปลายไตรมาส 1/63 หรือต้นไตรมาส 2/63 และมุมมองลบจากการขาดหายไปของเม็ดเงินลงทุน LTF ที่คาดจะลดลงหลังเปลี่ยนเป็น SFF อย่างไรก็ตามตลาดรับรู้ปัจจัยลบส่วนใหญ่ ขณะที่การเร่งเบิกจ่ายงบในช่วงเวลาที่จำกัดปีหน้า จะเป็นปัจจัยบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

การเมืองยังเป็นปัจจัยรบกวนภาพเศรษฐกิจ จากคะแนนเสียงที่ใกล้เคียง ทำให้การเดินหน้าผลักดันนโยบายต่างๆมีความลำบาก และประชาชนขาดความเชื่อมั่นจากเหตุการณ์องค์ประชุมไม่ครบที่เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง อย่างไรก็ตามมีโอกาสที่สถานการณ์ความเชื่อมั่นอาจเพิ่มสูงขึ้นจาก 1) การรายงานข่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับครม.โดยดึงพรรคเศรษฐกิจใหม่เข้าร่วมรัฐบาล และ 2) กกต.มีกำหนดการลงมติตัดสินเงินกู้พรรคอนาคตใหม่ 11 ธ.ค. ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลเปลี่ยนแปลง

เน้นกลยุทธ์เชิงตั้งรับ ทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว ระยะสั้น เราประเมินตลาดมีความผันผวนเพิ่มสูงขึ้น หุ้นกลุ่ม Global-Cyclical Plays อาทิ พลังงาน ปิโตรฯ ธนาคาร อิเล็กฯ ส่งออก มีแนวโน้ม underperform ตลาด ขณะที่ หุ้นกลุ่ม Defensive-Domestic Plays มีโอกาสถูกหยิบกลับมาเล่นใหม่ แนะเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม โรงไฟฟ้า การแพทย์ สื่อสาร ค้าปลีก ขณะที่หาจังหวะตั้งรับกลุ่มโรงกลั่น พลังงาน และโรงแรม

ภาพรวมกลยุทธ์ แนวโน้มระยะสั้นผันผวน แต่ยังให้น้ำหนักโอกาสฟื้นตัวจาก 1550-1565 จุด ขณะที่คงมุมมองบวกในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้า จากภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว // หุ้นแนะนำวันนี้ BCH, MINT /เก็งกำไร  BDMS* (เป้า 26, ตัดขาดทุน 24)

แนวรับ 1550-1565 จุด / แนวต้าน : 1586-1605 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

ประเด็นการลงทุน

ทรัมป์พลิกลิ้น เจรจาการค้ายังเป็นไปในทางบวก – ทรัมป์เผยการเจรจาข้อตกลงการค้ากับจีนดำเนินไปในทางบวกและอยู่ในระหว่างการพิจารณาความคืบหน้า ขัดแย้งกับคำกล่าวก่อนหน้านี้เล็กน้อยที่ทรัมป์ระบุว่าการบรรลุข้อตกลงอาจลากยาวไปหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีหน้า

สหรัฐฯขาดดุลน้อยลง – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผย ขาดดุลการค้าลดลง 7.6% สู่ระดับ $4.72 หมื่นล้าน ขณะที่ขาดดุลกับจีนลดลง 1.1%

รัฐบาลฮ่องกงประกาศแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ – รัฐบาลฮ่องกงประกาศฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบใหม่ วงเงิน $511 ล้าน เร่งช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงที่ลากยาวมาเกือบ 6 เดือน

หอการค้ามองเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวปีหน้า – หอการค้า คาดทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 63 กลับมาฟื้นตัวหลังหดตัวมากในปีนี้ จากการเบิกจ่ายงบ 63 ของภาครัฐฯ ซึ่งคาดหนุนให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น

ค่าระวางเรือ ดัชนี BDI ปิดทำการ 1575.00 ลดลง 24.00 จุด (-1.50%)

 

ประเด็นติดตาม: 5-6 ธ.ค. – OPEC meeting // 6 ธ.ค. ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ // 15 ธ.ค. ทรัมป์พิจารณาขึ้น-ไม่ขึ้น ภาษีสินค้าจีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)