แกว่งตัวในกรอบแคบ

แกว่งตัวในกรอบแคบ

วันพุธที่ผ่านมาดัชนีปิดปรับตัวลงเล็กน้อย คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปิดในแดนลบ หลังแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนอาจจะยืดเยื้อไปยังปีหน้า

นอกจากนี้ ตลาดภายในประเทศยังถูกกดดันจากกลุ่ม BANK จากข่าว ธปท.เตรียมควบคุมค่าธรรมเนียมกลุ่มธนาคารพาณิชย์  ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,565.45 จุด (-2.18 จุด) Volume 4.5 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,248.98 ลบ. TFEX Net  -7,358 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 28.01 จุด +0.10% จากความคาดหวังว่าสหรัฐ-จีนจะบรรลุข้อตกลงการค้าได้ก่อนการเรียกเก็บภาษีรอบใหม่ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้

+ สหรัฐเผยขาดดุลการค้าเดือนต.ค. ลดลง 7.6% สู่ระดับ 4.72 หมื่นล้านดอลลาร์ ขาดดุลการค้ากับจีนลดลง 1.1%

+สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานดีดตัวขึ้นในเดือนต.ค. หลังลดลงติดต่อกัน 2 เดือน

+คาดจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลดหย่อนภาษีในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี

+/- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดทรงตัวที่ระดับ 58.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางการจับตาผลการประชุมกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร โดยคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น

+/-ยูโรสแตทเผยเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.2% ในไตรมาส 3 เท่ากับตัวเลขประมาณการเบื้องต้น และไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 2

-"เพโลซี"ประธานสภาผู้แทนฯสหรัฐขอให้คณะกรรมาธิการฝ่ายตุลาการของสภาผู้แทนสหรัฐเริ่มดำเนินการร่างคำร้องเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์

-ยอดค้าปลีกยูโรโซนในเดือนต.ค. ร่วง 0.6% แย่กว่าคาดการณ์

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -2.6 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.355 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยตัวเลขตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. อัตราว่างงานเดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยนักลงทุนคาดหวังว่าการสหรัฐ-จีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกได้ก่อนมาตรการภาษีนำเข้าที่สหรัฐจะบังคับใช้กับจีนในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,555-1,575 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

·      หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. (TACC TNP JUBILE)

·      หุ้นได้ประโยชน์มาตรการ "บ้านดีมีดาวน์" (SPALI  AP  LPN  PF  ORI ANAN)

·      หุ้น Defensive Stock (TTW  BH  BCPG  BEM)

หุ้นรายงานพิเศษ

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. (TACC TNP JUBILE)

JUBILE “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 24.50 บาท

คาดว่า 4Q62 จะได้แรงหนุนจากการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ อีกทั้งจะมีการจัดงานฉลองครบรอบ 90 ปีของบริษัทช่วยหนุนรายได้เพิ่มเติม ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไรปี 62 และปี 63 จาก 222 ลบ.และ 230 ลบ.สู่ 251 ลบ.และ 265 ลบ. เติบโต 31% และ 6%YoY ตามลำดับ

TACC “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 6.45 บาท

แนวโน้ม 4Q62 โตต่อเนื่อง เราคาดมีกำไรสุทธิราว 44 ลบ. +367%YoY +21%QoQ จาก 1) ธุรกิจโถกดเย็นเติบโตตามจำนวนสาขา 7-11 ที่เพิ่มขึ้น 2) ผลิตภัณฑ์ใหม่ (ชานมบุก) ได้กระแสตอบรับดี 3) งานใหญ่ในธุรกิจ Character Business จัดที่สยามพารากอนเมื่อเดือน ต.ค. 4) Q4 เป็น High Season ของปี ดังนั้นเรายังคงคาดผลประกอบการทั้งปีราว 157 ลบ. +129%YoY

TNP “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 2.56 บาท

คาดว่ากำไร 4Q62 จะ Peak ที่สุดของปีจากการเข้าสู่ช่วง  High Season ของธุรกิจ รวมทั้งได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ ชิม ช้อป ใช้”  ซึ่งเริ่มใช้ในเดือนต.ค.เลื่อนมารับรู้ใน 4Q62 ทั้งนี้ เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปี 62 เท่าเดิมที 82 ลบ. +28%YoY

หุ้นมีข่าว   

·       ตลท.เพิกถอนหุ้น GLOW จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนมีผล 13 ธ.ค.62 โดยจะซื้อขายวันสุดท้าย 12 ธ.ค. (ที่มา SET NEWS)

·      (+) CPN (Bloomberg Consensus 77.90 บาท ) ผลการดำเนินงานไตรมาส4/62 ทั้งรายได้และกำไรจะเติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านๆมา เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น พร้อมทั้งบริษัทยังเตรียมรับรู้กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน.โครงการลงทุนของเซ็นทรัล วิลเลจ ให้กับ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชียฯ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.มิตซูบิชิ เอสเตท ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่น จะเข้าถือหุ้นในโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ สัดส่วน 30% มูลค่าเงินลงทุนราว 1,000 ล้านบาท สำหรับโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ เฟสแรก ซึ่งเปิดดำเนินมากว่า 3 เดือน มีลูกค้ามาใช้บริการราว 1.7 หมื่นล้านบาท/วัน มียอดใช้จ่าย 1.2 หมื่นล้านบาท  นอกจากนี้ยังมีแผนร่วมลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย (ที่มา มิติหุ้น)

·      (+) CK (Bloomberg Consensus 28.08บาท) เซ็นสัญญาสร้างทางด่วนพระราม 3 รับงานเพิ่มอีก 6.6 พันล้านบาทแล้ว กทพ.คาด อีก 1 เดือน เริ่มเข้าพื้นที่มีความพร้อมจ่ายเงินก้อนแรกทันที 10% ของมูลค่าสัญญา (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) GPSC (Bloomberg Consensus 82.77 บาท)  จ่อรีไฟแนนซ์เงินกู้ระยะสั้น 10,000-20,000 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 1/63 หวังลดดอกเบี้ยจ่ายเหลือ 2,000 ล้านบาท จากเดิม 3,000 ล้านบาท กด D/E เหลือ 1 เท่า จากล่าสุดอยู่ที่ 3.76 เท่า ส่วนแผนถอนหุ้น GLOW ออกจากตลท.คาดเสร็จกลาง ธ.ค.นี้ พร้อมยอมรับโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซฯที่เมียนมา 600 เมกะวัตต์ ล่าช้ากว่าแผน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) NEX (Bloomberg Consensus - บาท) NEX ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตร สยาม สแตนดาร์ดดีลเลอร์รายใหญ่นำเข้ารถบัส SUNLONG ลุยธุรกิจรถบัสโดยสารทุกรูปแบบ เชื่อมโยงระบบ Feeder ขนส่งผู้โดยสารเข้าสู่ระบบราง แตกไลน์ธุรกิจเข้าสู่ อุตสาหกรรมรถบัสโดยสารที่มีมูลค่าตลาดนับหมื่นล้านบาท คาดหนุนผลงานปี 63 กลับมาเทิร์นอะราวด์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) PTG (Bloomberg Consensus 21.56 บาท) พีทีจีสู้ศึก! แอลพีจีครัวเรือน เตรียมทุ่มงบลงทุน 1,500 ล้านบาท ลุยสร้างโรงบรรจุก๊าซ 3 แห่ง ขนาด 1,000 ตันต่อแห่ง ตั้งเป้ายอดขายปีหน้า 3.6 หมื่นตัน ชิงมาร์เก็ตแชร์ 10% พร้อมจ่อขยายปั๊มอีก 200 แห่ง ดันรายได้ปีหน้าพุ่ง 1.5 แสนล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·       (+/-) GL (Bloomberg Consensus - บาท) ยื่นฟ้องกลับ BJTI เรียกค่าเสียหายต่อศาลแขวงจาการ์ตา มูลค่า 45 ล้านบาท หลังพ้นข้อกล่าวหาผิดสัญญาการจัดการสินเชื่อร่วมทางการเงิน ยืนยันเป้าพอร์ตสินเชื่อปีหน้าโต 20% แตะ 7,800 ล้านบาท พร้อมขยายฐานการเติบโตในเมียนมา-กัมพูชา-อินโดนีเซีย ดันภาพรวมธุรกิจฟื้นตัวระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+) DRT (Bloomberg Consensus 6.99 บาท) คาดผลการดำเนินงานปี 2562 ทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังเดินกลยุทธ์ปรับ Product Mix มุ่งเพิ่มสัดส่วนขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุน ลุ้นรับอานิสงส์มาตรการรัฐ "บ้านดีมีดาวน์" ตั้งแต่ 27 พ.ย.2562-31 มี.ค. 2563 กระตุ้นดีมานด์ (ที่มา ทันหุ้น)