'นมวัวแดง' รุกชิงตลาดจีน

'นมวัวแดง' รุกชิงตลาดจีน

“มนัญญา” ดัน อสค.รุกตลาดนมในประเทศจีน ชี้ดีมานด์ตลาดขยายตัวต่อเนื่อง หลังพบนำเข้าสูงปีละ 14.85 ล้านตัน พร้อมตั้งเป้าขยายมูลค่าตลาดต่างประเทศ 1,200 ในปี 2563

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เพื่อผลักดัน ให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) เป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำของประเทศไทย และเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมนมในอาเซียน จึงสั่งการให้อ.ส.ค.ศึกษาและสำรวจตลาดผลิตภัณฑ์นมของจีน เพื่อหาลู่ทางขยายตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คในตลาดต่างประเทศให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ พบว่า ปัจจุบัน ผู้บริโภคจีนมีความต้องการผลิตภัณฑ์นมที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี และประเมินว่าภายใน​ 5​ ปี​ (ปี2561-2565)​ คนจีนมีอัตราการบริโภคนมเฉลี่ย​ 38 ​ลิตรต่อคนต่อปี​ซึ่งมากกว่าคนไทยที่บริโภคนม​ 18​ ลิตรต่อคนต่อปี ​และ ในปี 2560 จีนนำเข้าผลิตภัณฑ์นมจำนวน 14.85 ล้านตัน ผลิตภัณฑ์ที่นำ เข้าหลัก ได้แก่ นมผง ชีส เวย์ ครีม นมสด และโยเกิร์ต 

อย่างไรก็ตาม จากปริมาณการนำเข้าของจีนพบว่าไทยยังมีส่วนแบ่งตลาดที่ต่ำมาก โดยจีนนำเข้าผลิตภัณฑ์นมจากไทยในปี 2560 จำนวน 151,841 กิโลกรัม  หรือ เฉลี่ยเพียง 151 ตัน มูลค่า 310,000 ดอลลาร์

“จีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงทั้งจำนวนประชากรและพฤติกรรมการบริโภค ซึ่งผลิตภัณฑ์นมจากประเทศไทยควรใช้โอกาส นี้ในการขยายตลาดที่จีนเพิ่มขึ้นด้วยการปรับคุณภาพสินค้าให้ตรงตามความต้องการผู้บริโภคในต่างประเทศ”

แม้ว่าไทยจะต้องเผชิญข้อจำกัด ด้านกฎระเบียบในการส่งออกผลิตภัณฑ์นมไปยังจีน แต่ตามข้อตกลงในใบรับรองสุขอนามัยผลิตภัณฑ์นมไทยระหว่างไทย-จีน นั้นได้อนุญาตให้ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์นมของไทยที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากประเทศที่ปลอดโรคปากและเท้าเปื่อยได้  ดังนั้น จึงสั่งการให้ อ.ส.ค.เร่งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเร่งปรับปรุงคุณภาพให้ตรงตามกฎระเบียบของประเทศจีน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คส่งออกไปยังจีนได้

สำหรับผลดำเนินการผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คในตลาดต่างประเทศอื่นๆ นั้นมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ทำรายได้มูลค่ากว่า 957 ล้านบาท โดยมีตลาดหลักในกลุ่มประเทศอาเซียนแบ่งเป็น สปป.ลาว มูลค่า 236 ล้านบาท กัมพูชามูลค่า 651 ล้านบาท และเมียนมามูลค่า 70 ล้านบาท และตั้งเป้าว่าปี2563 จะขยายตลาดให้มีมูลค่า 1,200 ล้านบาทและเตรียมเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในตลาดเมียนมาและเตรียมเปิดตลาดในเวียดนามและจีนเพิ่ม โดยวางเป้าหมายขยายตลาดต่างประเทศให้เพิ่มขึ้นประมาณ 15%ต่อปี และเพิ่มสัดส่วนรายได้ตลาดต่างประเทศเป็น 20% ภายในปี 2564