การเมืองพรรคร่วม สำคัญน้อยกว่าแก้ ศก.

การเมืองพรรคร่วม สำคัญน้อยกว่าแก้ ศก.

ขอเพียงรัฐบาลมองให้รอบด้าน อย่าทุ่มสรรพกำลังในการแก้ปัญหาการเมืองมาก จนลืมหันมามองปัญหาปากท้องของประชาชน

การประชุมสภาเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2562 จากองค์ประชุมจำนวน ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านรวม 498 คน ลดลงจากเดิมที่มี 499 คน ฝ่ายรัฐบาลมี ส.ส. 252 เสียง แต่จะมี ..จำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถเข้าร่วม 3 คน คือ นายเกียรติ สิทธีอมร ..บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่อยู่ระหว่างการพักรักษาตัว นายกรณ์ จาติกวณิช ..บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งติดภารกิจในต่างประเทศ และนายชัย ชิดชอบ ..บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาโหวตญัตติการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ซึ่งมีกำลังนับคะแนนด้วยการขานชื่อทีละคน นับองค์ประชุมสภาได้เพียง 261 คน

การที่มี ..เข้าร่วมประชุมจำนวนเพียง 261 คน เพราะฝ่ายค้านส่วนใหญ่จะออกจากการประชุม เพราะไม่เห็นด้วยกับการนับคะแนนใหม่ที่เป็นการลงคะแนนเสียงครั้งใหม่ด้วยวิธีขานชื่อรายบุคคล แต่ก็ถือว่าครบองค์ประชุม ปรากฏว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ 244 เสียง ต่อ 5 เสียง โหวตไม่ตั้ง กมธ.แก้ ม.44

157546929128

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นจังหวะที่รัฐบาล พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศมากว่า 6 เดือน มีข่าวปรับ ครม.หนาหู แม้เป็นธรรมดาของรัฐบาลหลังจากรัฐมนตรีแต่ละคนทำหน้าที่มาระยะหนึ่ง ต้องมีการประเมินการทำงานและมีการปรับ ครม. ทว่าวันนี้เสียงปรับ ครม.ดังกว่าปกติ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มแตกร้าวจากภายใน ต้นเหตุให้สภาล่มเมื่อปลายเดือน .. 2 ครั้งติดต่อกันในค่ำวันที่ 27 และเช้าวันที่ 28 .

การที่ ส.ส.บางส่วนของพรรคประชาธิปัตย์โหวตสวนมติพรรคร่วม ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกเพ่งเล็ง หลังก่อนหน้านั้นพรรคภูมิใจไทยสร้างปัญหา เพราะทำตัวเป็นพระเอกแบน 3 วัตถุอันตราย จนต้องแก้เกมกันอุตลุด กระทั่งสภาประชุมในวาระดังกล่าวอีกครั้ง แม้จะไม่ล่มเป็นครั้งที่ 3 แต่ต้องยอมรับว่าก่อนประชุม 1 วัน มีการนัดหมายรับประทานอาหารร่วมกัน ประการแรก ป้องกันสภาล่มรอบที่ 3 ประการต่อมาสมานรอยร้าวระหว่างพรรค ไม่ถึงขั้นยุบสภา แต่หลังจากนี้จะมีการปรับ ครม.อย่างแน่นอน เชื่อว่ารัฐบาล พล..ประยุทธ์จะพิจารณาปรับและเปลี่ยนตามผลงานและเอาผลประโยชน์ในการทำงานเพื่อประเทศเป็นหลัก โดยไม่ละเลยปัญหาเศรษฐกิจของไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยสงครามการค้าจนเศรษฐกิจโลกชะลอ 

รัฐบาลอย่าทุ่มสรรพกำลังในการแก้ปัญหาการเมืองมากจนลืมปัญหาปากท้องของประชาชน พรรคร่วมรัฐบาลต้องมุ่งไปสู่การแก้ไขเศรษฐกิจในประเทศโดยใช้ทีมเวิร์คในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะในกระทรวงเศรษฐกิจ นอกจากจูงใจทางด้านภาษีและลดอุปสรรคในการลงทุน จำเป็นต้องอัดฉีดเงินเข้าระบบผ่านฐานรากต่อเนื่อง อีกสิ่งที่ต้องทำคือช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีให้ความเข้มแข็ง เพื่อให้โครงสร้างเศรษฐกิจแข็งแกร่งยั่งยืน เราเห็นว่าข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมฯ 3 สถาบัน (กกร.) เมื่อวานนี้ (4 ..) น่าสนใจและนำไปปฏิบัติ ไม่ว่าการเดินหน้ามาตรการช็อปช่วยชาติและลดภาษีท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อให้ถูกจุด ส่วน กกร.เองให้ความร่วมมือ รับปากที่จะปรับตัว ปรับระบบธุรกิจลดพึ่งพาการส่งออก หากทำได้เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มบรรยากาศทางเศรษฐกิจ ได้เป็นอย่างดี