สงครามการค้าเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดในระยะสั้น ระวังแรงทำกำไรหุ้นกลุ่มอิเล็กฯ

สงครามการค้าเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดในระยะสั้น ระวังแรงทำกำไรหุ้นกลุ่มอิเล็กฯ

ความคาดหวังต่อการบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกดับวูบ

ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งสัญญาณไม่เร่งรีบที่จะผลักดันข้อตกลงการค้ากับจีนพร้อมเผยว่าสามารถรอจนถึงหลังจบการเลือกตั้งในปีหน้าได้ ส่งผลให้นักลงทุนตอบสนองในเชิงลบทันทีผ่านแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและการดีดตัวขึ้นของราคาทองคำ การที่สหรัฐฯ ไม่รีบร้อนเจรจาและอาจรอถึงการเลือกตั้งประธานาธิปดี แสดงถึงอำนาจต่อรองและความได้เปรียบในการเจรจาของจีน ทำให้เราประเมินสหรัฐฯ ไม่น่าจะเพิ่มความรุนแรงของการทำสงคราม โดยเฉพาะภาวะที่เศรษฐกิจยังเปราะบาง ทั้งนี้ เราประเมินว่าตราบใดที่ตลาดยังไม่มีสัญญาณใหม่จากทางฝั่งทรัมป์หรือจีน ตลาดหุ้นโลกจะยังคงซึมต่อเนื่องก่อนเลือกทางอีกครั้งหลังการขึ้นภาษีนำเข้ารอบต่อไปที่มีกำหนดการในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งหากเห็นการเลื่อนเก็บภาษี แรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะผ่อนคลายลง แต่หากสหรัฐฯ ยังเดินหน้าเก็บภาษี จะมีผลให้เกิดการทบทวนผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2563

น้ำมันรอเลือกทางหลังประชุมโอเปกวันที่ 5-6 ธ.ค. แม้เป็นเรื่องยากต่อการคาดการณ์ผลประชุมโอเปกจากข้อมูลทั้งเชิงบวกและลบที่ออกมาในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับ ประเด็นสงครามการค้าล่าสุดที่ออกมากดดันตลาดอีกครั้ง ทำให้ทิศทางราคาน้ำมันยังค่อนข้างอึดอัดเช่นเดียวกับตลาดหุ้น ทั้งนี้แม้โอเปกจะ surprise ตลาดผ่านการลดกำลังการผลิตเพิ่ม แต่หากทรัมป์เดินหน้าสงครามการค้าต่อ อัพไซด์ราคาน้ำมันยังคงมองจำกัดในปีหน้า

ระวังแรงทำกำไรในกลุ่ม Glocal-Cyclical Plays ที่ราคาปรับขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า. ความคาดหวังประเด็น Trade deal ที่ลดลงอาจกระตุ้นให้เกิดแรงทำกำไรหุ้นในกลุ่ม Global-Cyclical plays ที่ถูกดันขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า (โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น KCE HANA DELTA ที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นจาก sentiment เรื่อง trade deal เป็นหลัก) ระยะสั้น ด้วยผลเจรจาการค้าที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง และหมุนกลับเข้าพักในหุ้นกลุ่มปลอดภัย-ปันผลสูง

เน้นกลยุทธ์เชิงตั้งรับ ทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว ระยะสั้น เราประเมินตลาดมีความผันผวนเพิ่มสูงขึ้น หุ้นกลุ่ม Global-Cyclical Plays อาทิ พลังงาน ปิโตรฯ ธนาคาร อิเล็กฯ ส่งออก มีแนวโน้ม underperform ตลาด ขณะที่ หุ้นกลุ่ม Defensive-Domestic Plays มีโอกาสถูกหยิบกลับมาเล่นใหม่ แนะเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม โรงไฟฟ้า โรงพยาบาล สื่อสาร ค้าปลีก เป็นหลัก กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่

ภาพรวมกลยุทธ์ ความเสี่ยงระยะสั้นเพิ่มสูงขึ้นคาดส่งผลให้ดัชนีปรับฐานต่อบริเวณแนวรับ 1550-1565 จุด หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรกลุ่มอิเล็กฯ ขณะที่ แนะกลับมาเพิ่มน้ำหนักหุ้น Defensive-Domestic Plays มากขึ้น // หุ้นแนะนำวันนี้ BCH, GPSC /เก็งกำไร  EGCO* (เป้า 380, ตัดขาดทุน 330)

แนวรับ 1550-1565 จุด / แนวต้าน : 1580-1590 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

การเลื่อนดีลการค้าไปหลังการเลือกตั้งฯ ช่วยลดอำนาจต่อรองของจีน - รมว.พาณิชย์ สหรัฐฯ ระบุ การที่สหรัฐฯ ใช้วิธียื้อเวลาทำข้อตกลงการค้ากับจีนหลังเลือกตั้งฯ ปีหน้า เป็นการลดอำนาจการต่อรองของจีนที่มีต่อสหรัฐฯ

SSF - กองทุนลดหย่อนภาษีที่มาแทน LTF ไม่จำกัดประเภทสินทรัพย์ แต่ต้องลงทุน 10 ปี และจำกัดวงเงินลงทุนเหลือ 200,000 บาท คาดจะส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนในแต่ละปีลดลง เป็นปัจจัยลบต่อการลงทุนหุ้นไทยในระยะยาว

GDP SME ไตรมาส 3/62 โต 3.1% สสว.เผย ตัวเลข GDP SME ไตรมาส 3/62 ขยายตัว 3.1% ประเมินทั้งปีโตที่ระดับ 3.5% จากประมาณการเดิมที่คาดโต 3.5-4.0%

GLOBAL – บริษัทชี้แจงกรณีเหตุเพลิงไหม้วันที่ 4 ธ.ค. ที่อาคารคลังสินค้า แต่เบื้องต้นสามารถดับเพลิงได้แล้ว ประเมินความเสียหายเบื้องต้นที่ 5% ของพื้นที่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ความเสียหายทั้งหมดอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยที่ทางบริษัทจัดทำไว้แล้ว

ค่าระวางเรือ ดัชนี BDI ปิดทำการ 1606.00 เพิ่มขึ้น 38.00 จุด (+2.42%)

ประเด็นติดตาม: 5-6 ธ.ค. – OPEC meeting // 6 ธ.ค. ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ // 15 ธ.ค. ทรัมป์พิจารณาขึ้น-ไม่ขึ้น ภาษีสินค้าจีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)