'สุทิน' แฉ รัฐบาลล็อบบี้ฝ่ายค้านกว่า 20 คน เสนอผลประโยชน์ 8 หลัก แลกองค์ประชุมสภา

ประธานวิปฝ่ายค้าน เผยไม่ต้องการนับคะแนนใหม่ เหตุตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบ ม.44 ขณะที่รัฐบาลล็อบบี้ฝ่ายค้านกว่า 20 คน เสนอผลประโยชน์ 8 หลัก แลกองค์ประชุมสภา

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 62 นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวก่อนการประชุมวิปรัฐบาล ว่า จะมีการหารือกันถึงการลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการกระทำและคำสั่ง คสช. และมาตรา 44 ซึ่งเจตนารมณ์พรรคฝ่ายค้านยังยืนยันจุดยืนเดิมที่ไม่ต้องการให้นับและขานชื่อลงคะแนนใหม่ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรข้อที่ 85 แต่หากฝ่าย ส.ส.รัฐบาลยังยืนยันที่จะดำเนินการก็ต้องวัดกันที่องค์ประชุม จึงอยู่ที่ฝ่าย ส.ส.รัฐบาล จะสามารถรักษาองค์ประชุมและเดินหน้าโหวตได้หรือไม่ และมองว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรสามารถวินิจฉัยไม่ให้ฝ่ายรัฐบาลใช้สิทธิ์ตามข้อบังคับเพื่อนับและขานชื่อลงคะแนนใหม่ เพราะเวลาล่วงเลยมา 1 สัปดาห์แล้ว ถือว่าเป็นคนละองค์ประชุมกัน

อ่านข่าว-ขู่สภาล่มอีก 'ปรับครม.-ยุบสภา'

นายสุทิน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงเช้าวันนี้ ฝ่ายรัฐบาลมีการเคลื่อนไหวหนัก พยายามติดต่อล็อบบี้ฝ่ายค้านกว่า 20 คน เสนอผลประโยชน์เป็นตัวเลขสูงถึง 8 หลักต่อคน เพื่อขอให้เป็นองค์ประชุม ซึ่งอยู่ระหว่างการพูดคุยกันว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริง ฝ่ายรัฐบาลก็ควรทบทวน เพราะเป็นการทำลายวัฒนธรรมทางการเมือง

ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังกล่าวอีกว่า หากรัฐบาลยังยืนยันให้นับและขานชื่อลงคะแนนใหม่ ตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 85 ก็จะเป็นบรรทัดฐานให้ทำกันต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต และหนีไม่พ้นที่จะต้องมีการนับองค์ประชุม และจะมีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์กันอยู่เรื่อยไป ทำให้การเมืองไทยอ่อนแอ ซึ่งไม่ใช่แค่เสถียรภาพของรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังอ่อนแอในสายตาสังคมโลก จะเข้าทางฝ่ายไม่หวังดีมาทำลายประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง และอาจวนเวียนไปสู่การรัฐประหาร

ส่วนฝ่ายค้านจะใช้สิทธิ์นับและขานชื่อลงคะแนนใหม่ ตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 85 ในอนาคตด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ฝ่ายค้านมีเจตนาไม่อยากใช้ข้อบังคับมาตรา 85 แต่หากถึงคราวจำเป็นก็อาจจะต้องใช้ เพราะไม่แน่ใจว่าการลงมติที่ฝ่ายรัฐบาลเคยชนะเป็นมติที่แท้จริงหรือไม่ แต่ก็คิดว่าการนับและขานชื่อลงคะแนนใหม่เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ซึ่งข้อบังคับข้อที่ 85 เป็นปัญหาที่สมาชิกหลายคนอยากให้แก้ไข และไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพียงเสนอญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการแก้ไข โดยไม่ต้องทูลเกล้าฯ

สำหรับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ขู่ระหว่างประชุมคณะรัฐมนตรีหากองค์ประชุมสภาไม่ครบ อาจมีผลให้ต้องปรับคณะรัฐมนตรีหรือยุบสภา นายสุทิน กล่าวว่า เป็นท่าทีที่ไม่ดี แสดงให้เห็นความอ่อนไหวของเสถียรภาพรัฐบาล หากมีการยุบสภาพรรคเพื่อไทยก็พร้อมเลือกตั้งใหม่ตลอด แต่ถ้าจะยุบสภาจริงก็ควรสมเหตุสมผล คำนึงถึงชาวบ้าน ไม่ใช่เอาความอ่อนแอหรือเสถียรภาพของรัฐบาลมาเป็นปัญหาของสภาผู้แทนราษฎร