ดาวโจนส์ทรุด 280 จุด หลัง 'ทรัมป์' ทุบความหวังบรรลุดีลการค้า

ดาวโจนส์ทรุด 280 จุด หลัง 'ทรัมป์' ทุบความหวังบรรลุดีลการค้า

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร (3ธ.ค.)ร่วงลง 280 จุด หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 280.23 จุดหรือ1.01% ปิดที่ 27,502.81 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 20.67 จุด หรือ 0.66% ปิดที่ 3,093.2 จุด และดัชนีแนสแด็กร่วงลง 47.34 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 8,520.64 จุด
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า อาจจะเป็นการดีกว่าที่จะรอจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้าสำหรับการบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน

“ผมชอบแนวคิดที่ว่าให้รอจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งเพื่อทำข้อตกลงการค้ากับจีน แต่ทางฝ่ายจีนต้องการทำข้อตกลงในขณะนี้ และเราจะดูว่าข้อตกลงนี้มีความเหมาะสมหรือไม่” ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงลอนดอน

ต่อข้อถามที่ว่า เขามีเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงการค้าหรือไม่ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า “ผมไม่มีเส้นตาย บางทีผมคิดว่ามันเป็นการดีกว่าที่จะรอจนกว่าหลังการเลือกตั้ง”

นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังถูกกดดันจากการที่ปธน.ทรัมป์เปิดแนวรุกทำสงครามการค้ากับอีกหลายประเทศนอกเหนือจากจีน โดยได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าจากบราซิลและอาร์เจนตินา พร้อมกับขู่เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจากฝรั่งเศส

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ จากการเปิดเผยภาคการผลิตสหรัฐหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 48.1 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 48.3 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.4

ดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ ซึ่งเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 4 โดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของคำสั่งซื้อใหม่ และสต็อกสินค้าคงคลัง

ภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะหดตัวในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่มีการขยายตัวติดต่อกัน 35 เดือน

อ่านข่าว-ภาคการผลิตหดตัวฉุดดาวโจนส์ดิ่งเกือบ 300 จุด