ลงต่อ

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Slightly Negative และคาดดัชนีฯ ลงต่อ แนวรับ 1560 / 1550 จุด แนวต้าน 1580 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ 1) สัญญาณเทคนิคยังคงเป็นรูปแบบขาลง โดยมีเป้าหมายหลักที่ 1550 จุด 2) นักลงทุนต่างชาติยังคงเน้นการ Short เพื่อทากาไรจากรูปแบบขาลง (Short สัญญา SET50 Index Futures วานนี้อีกเกือบ 1.6 หมื่นสัญญา ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ Short สูงสุดตั้งแต่ปี 2017 ที่ 5 หมื่นสัญญา 3) การวิตกต่อการเจรจาการค้าจีนกับสหรัฐฯ หลังปธน.ทรัมป์ ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงกาหนดการเซ็นสัญญาที่ชัดเจน 4) สงครามการค้าโลกอาจประทุรอบใหม่หลังสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนาเข้าเหล็กและอลูมิเนียมต่อบราซิลและอาร์เจนติน่า รวมถึงการเสนอเก็บภาษีสินค้าจากฝรั่งเศส เพื่อตอบโต้ฝรั่งเศสเก็บภาษี Digital Services Tax จากบริษัทเทคฯ สหรัฐฯ 5) การผิดหวังต่อตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือน พ.ย. ที่แย่กว่าคาด

กลยุทธ์ลงทุน: เปลี่ยนเป็น Wait & See หลังจากแนะนาให้ขายตัดขาดทุนไปที่ 1580 จุด โดยจุดซื้อคืน คือ รอเกิดรูปแบบกลับตัว Reversing Pattern (Hammer)

ประเด็นสำคัญวันนี้: Australia-ผลประชุมธนาคารกลาง เกำหลีใต้-3Q19E GDP

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้

ตลาดหุ้นไทยสวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับสูงขึ้น โดยปรับตัวลงแรงไปสร้างจุดต่าสุดรอบ 10 เดือน ที่ 1566.68 จุด -23.91 จุด ก่อนรีบาวด์มาปิดที่ระดับ 1569.53 จุด -21.06 จุด วอลุ่ม 5.47 หมื่นล้านบาท กลุ่มอุตฯ นาลง ได้แก่ อาหาร -2.69% ICT -1.97% เกษตรฯ -1.93% วัสดุก่อสร้าง -1.83% พาณิชย์ -1.81% ส่วนหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด 20 อันดับแรก ปรับลดลงถึง 19 บริษัท นาโดย ADVANC AOT PTT INTUCH CPALL KBANK GULF CPF SCC ฯลฯ

ประเด็นสาคัญ

- ตลำดหุ้นโลกร่วง: DJ -0.96% S&P500 -0.86% Nasdaq -1.12% หลังผิดหวังตัวเลขภาคการผลิตเดือน พ.ย. ของ ISM หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และข่าว ปธน.ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนาเข้าจากบราซิลและอาร์เจนติน่า เพราะค่าเงินของ 2 ประเทศที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วงมากสุดรอบ 2 เดือน DAX -2.05% CAC40 -2.01% FTSE -0.82%

+/- น้ำมันดิบกลับมำฟื้นตัว แต่ทองร่วง: WTI +USD0.79 ปิด USD55.96/บาร์เรล Brent +USD0.43 ปิด USD60.92/บาร์เรล ลุ้นผลประชุมโอเปกอาจลดการผลิตหรือขยายเวลาลดการผลิตออกไปจนถึงเดือน มิ.ย. ขณะที่ Gold ย่อตัว -USD3.50 ปิด USD1,469.20/บาร์เรล จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจีนรายงานภาคการผลิตดีขึ้น

- USA: ตัวเลขภาคการผลิต ISM Mfg PMI เดือน พ.ย. ออกมาแย่กว่าคาดการณ์ โดยอยู่ที่ 48.1 (Vs คาด 49.2, เดือน ต.ค. 48.3)

+ จีน: Caixin Mfg. PMI เดือน พ.ย. สารวจจากผู้ผลิตขนาดเล็กและกลาง ปรับดีขึ้นกว่าคาดเป็น 51.8 (Vs คาด 51.4, เดือน ต.ค. 51.7) สอดคล้องกับ Mfg PMI เดือน พ.ย. ที่สารวจจากผู้ประกอบการขนาดใหญ่ของสานักงานสถิติแห่งชาติที่สูงกว่าระดับ 50 จุด เป็นครั้งแรกรอบ 6 เดือน สะท้อนเศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว

- ไทย: เงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือน พ.ย. +0.2% YoY (Vs Consensus คาด +0.30% YoY , เดือน ต.ค. +0.11% YoY ต่าสุดรอบ 2 ปี) ส่งผลเงินเฟ้อ 11M2019 +0.69% YoY ซึ่งคาดว่าจะต่ากว่าเป้าหมายของเราที่ +0.9% และ 1% ในปี 2019-20E แต่คาดว่า การประชุมกนง. ในวันที่ 18 ธ.ค. จะไม่ปรับลดดอกเบี้ยฯ ต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สอดคล้องกับผลสารวจ BB Survey 20 นักเศรษศาสตร์ ที่คาดกนง. คงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 1.25%

+/- ไทย: พรรคฝ่ายค้านเปลี่ยนช่วงเวลายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นปลายเดือน ม.ค. 2020 หลังทราบว่าสามารถยื่นอภิปรายได้จะสิ้นสุดในสมัยประชุม (สิ้นสุดเดือน ก.พ. 2020) และช่วงปลายเดอือน ธ.ค. ถึงต้นเดือน ม.ค. ติดกับเทศกาลปีใหม่ ที่อาจไม่มีคนสนใจฟังข้อมูล

กลยุทธ์: Wait & See (รอเกิดสัญญาณ Reversing Pattern)

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: CPF TCAP INTUCH

หุ้นโมเมนตัมบวก: SMT BWG NEX JAS DELTA TQM

หุ้นโมเมนตัมลบ: PTG CBG TU CKP COM7 PORT ROJNA BEC BJC JMT CENTEL OSP CPF ADVANC DTAC INTUCH

Derivatives: แนะถือสถานะ Short S50Z19 ต่อไป (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)