สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระดำรัส 'วันชาติ 5 ธ.ค.'

สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระดำรัส 'วันชาติ 5 ธ.ค.'

ประทานพระดำรัสเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นวันชาติและวันพ่อแห่งชาติ

เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระดำรัสเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ ความว่า

“อภิลักขิตสมัยคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันชาติ และเป็นวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย จึงควรที่เราทั้งหลายผู้มีโอกาสได้พึ่งพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา จักน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และบำเพ็ญคุณงามความดี อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ แม้เสด็จสวรรคตล่วงลับไปแล้ว หากแต่ยังทรงดำรงอยู่ด้วยพระคุณ เป็นดวงประทีปทางปัญญาของประชาชาติไทย เป็นดั่งพ่อแห่งชาติไทย ทรงสถิตสถาพร อยู่ในความสำนึกของคนไทยอย่างแน่นแฟ้นตลอดมาตราบเท่าทุกวันนี้

เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ความตอนหนึ่งว่า ‘คุณธรรมข้อหนึ่ง ที่อุปถัมภ์และผูกพันคนไทยให้รวมกันเป็นเอกภาพ สามารถธำรงชาติบ้านเมืองให้มั่นคงเป็นอิสระยั่งยืนมาช้านาน คุณธรรมข้อนั้นก็คือไมตรี ความมีเมตตาหวังดีในกันและกัน คนที่มีไมตรีต่อกัน จะคิดอะไร ก็คิดแต่ในทางสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลกัน จะพูดอะไร ก็ใช้เหตุผลเจรจากัน ด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน จะทำอะไร ก็ช่วยเหลือกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน’

วันนี้ เป็นวาระบรรจบครบ ๒ ทศวรรษ แห่งพระราชดำรัสนี้ แต่เมื่อพิจารณาไปในสังคมไทยทุกวันนี้ ทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจได้ว่า เราทั้งหลายได้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสแล้วหรือไม่ เพียงใด

เนื่องในวันชาติไทย อาตมภาพขอเชิญชวนคนไทย เจริญเมตตาจิตต่อกันด้วยความจริงใจ สนองพระบรมราชปณิธานในรัชกาลที่ ๙ และในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ผู้ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน ในอันที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระบรมราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชบุพการีสืบมา ขอเราทั้งหลายจงคิดแต่ในทางสร้างสรรค์ ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลกัน เจรจากันด้วยเหตุผล และความเข้าอกเข้าใจกัน พร้อมที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า ‘โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา’ ‘เมตตาธรรมค้ำจุนโลก’ อันเป็นสัจจวาจาดังนี้เถิด

ขออานุภาพแห่งคุณความดีที่สาธุชนทั้งหลายได้ร่วมกันบำเพ็ญ จงสำเร็จเป็นทิพยสุขแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นเครื่องพิทักษ์รักษาคุ้มครองประชาชาติไทยให้ประสบความเกษมสุขสวัสดี มีกำลังพรั่งพร้อมในอันที่จะทำนุบำรุงราชอาณาจักรไทยให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นสืบไป เทอญ.”

ภาพ fb/SanggharajaOffice