ฝ่ายค้านขยับยื่นซักฟอกก.พ. อนค.เปิดเอกสารทบ.ปล่อยกู้

ฝ่ายค้านขยับยื่นซักฟอกก.พ.   อนค.เปิดเอกสารทบ.ปล่อยกู้

เพจอนาคตใหม่เปิดเอกสาร“กองทัพ”ปล่อยเอกชนกู้เงิน 1,200 ล้าน ทั้งที่มีทุนจดทะเบียน 10 ล้าน “ฝ่ายความมั่น” รับ “ธนาธร” รู้ข้อมูลลับหลังกลาโหมชี้แจงงบ เตือนละเมิดเผยแพร่ข้อมูลลับราชการ ขณะที่“ฝ่ายค้าน”เลื่อนวันซักฟอกรัฐบาล เล็ง ก.พ.ปีหน้า

หลังจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดประเด็นตรวจสอบงบประมาณกระทรวงกลาโหม ในการบรรยายพิเศษที่พรรค เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ล่าสุดวันต่อมา (2 พ.ย.) เพจเฟซบุ๊คพรรคอนาคตใหม่ โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า “เปิดมิติลี้ลับในกองทัพครั้งที่ 1 เอกสารภายในที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน กองทัพฯ ให้บริษัทที่มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ 14 คน เป็นผู้ถือหุ้นกู้เงินกว่า 1,200 ล้านบาท (ภาษีของประชาชน) โดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว”

นอกจากนี้ยังนำเอกสารจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุชื่อบริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท พร้อมระบุว่าเป็นบริษัทที่กองทัพฯ ให้บริษัทดังกล่าวกู้เงินกว่า 1,200 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ระบุว่า ช่วงนี้อยู่ในช่วงที่แต่ละกระทรวงจะต้องชี้เเจงงบต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 การที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศขอลาออกจากตำเเหน่งที่ปรึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และช่างสอดคล้องกับช่วงที่กระทรวงกลาโหมมาชี้เเจงงบต่อคณะกรรมาธิการฯ จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงมองว่า นายธนาธร ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์การบริหารงบประมาณแผ่นดินมาก่อนเลย และชิงลาออกจากคณะกรรมาธิการฯ โดยรับรู้ข้อมูลลับบางอย่างที่กระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯไปแล้ว ซึ่งข้อมูลด้านงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ บางอย่างเปิดเผย แต่บางอย่างเป็นเรื่องลับหรือลับมากซึ่งไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ

“การที่นำข้อมูลที่เป็นข้อมูลบางอย่างที่ถือเป็นเรื่องลับของทางราชการออกมาเผยแพร่ระวังจะโดนข้อหาละเมิดการรักษาความปลอดภัยข้อมูลข่าวสารลับ การออกมาพูดเรื่องเกี่ยวกับเอกสารปกปิด เอกสารลับของรัฐสภาฯนอกรัฐสภาฯ โดยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องแล้ว ระวังจะมีนักการการเมืองลายครามฝ่ายตรงข้ามตัวจริงเสียงจริง จะหยิบไปใช้เล่นงานได้”

ทั้งนี้การที่นายธนาธรตั้งเป้าว่าว่าฝ่ายความมั่นคงเป็นปฏิปักษ์กับตนเองนั้น ความจริงไม่ใช่เลย นายธนาธรต้องพิจารณาตัวเองด้วยว่า มีพฤติกรรมก้าวร้าวล้ำเส้นหรือไม่ นี้คือสิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงมองดู แต่ถ้าหากนายธนาธรไม่ได้มีพฤติกรรมดังกล่าวก็ไม่มีใครจ้องที่จะดำเนินการทางกฎหมาย จะเหลือก็แต่เพียงฝ่ายพลเรือนที่จ้องโจมตีนายธนาธร เพราะมองว่า ตัวนายธนาธรทำตัวล้ำเส้นผู้ใหญ่ทางการเมือง ตั้งความหวังจะเป็นนายกรัฐมนตรี จึงต้องถูกสกัดจากฝ่ายการเมืองมากกว่าฝ่ายทหาร

แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง ยังกล่าวถึงการจัดทำงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมว่า ในจำนวน 20 กระทรวง จะเห็นว่ากระทรวงกลาโหม เป็นกระทรวงที่ทำข้อมูลชี้แจงรายละเอียดมากที่สุด ไม่มีกระทรวงไหนที่ชี้แจงได้ละเอียดเท่านี้แล้ว ฉะนั้นการที่มีนักการเมืองออกมาพูดพาดพิงในสิ่งที่ไม่ถูกต้องระวังจะโดนฟ้องหมิ่นประมาทได้

 

กห.ชี้ยุโรปทบทวนกลับมาเกณฑ์ทหาร

ขณะที่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ได้นำเสนอแนวคิดการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเสนอพัฒนากองทัพให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมประเทศอื่น โดยการใช้เทคโนโลยีใหม่ทดแทนกำลังพล ว่า กองทัพก็พร้อมเปิดกว้าง รับแนวคิดต่างๆ มาปรับปรุงสู่การเปลี่ยนแปลงกองทัพให้มีความทันสมัย ผ่านการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ด้วยกลไกรัฐสภา เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับและสถานะเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศในภาพรวม

อย่างไรก็ตาม จากสถิติผู้สมัครใจเข้าเป็นทหาร ยังคงมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของกองทัพในแต่ละปี เช่นเดียวกับหลายประเทศที่เคยยกเลิกการเกณฑ์ทหาร กำลังเตรียมผลักดันให้กลับมามีการเกณฑ์ทหารเช่นเดิม โดยเฉพาะประเทศในยุโรป เนื่องจากยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจเยาวชนให้เข้าเป็นทหารได้มากเท่าที่จำเป็นและมองว่าเป็นโอกาสที่คนหนุ่มสาวจะได้ทำประโยชน์คืนแก่ประเทศและสังคม และเชื่อว่าเป็นความภาคภูมิใจของทุกคน

“เร็วเกินไปที่จะปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบดังกล่าว โดยจำเป็นต้องศึกษาถึงผลกระทบด้านความมั่นคงและประเด็นปัญหาต่างๆอย่างรอบด้าน เช่น การขาดแคลนกำลังพลสำรองซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นกำลังทางยุทธศาสตร์ของระบบเตรียมความพร้อมของประเทศยามวิกฤต การเพิ่มค่าตอบแทนและสวัสดิการพลทหารซึ่งเป็นเรื่องดี แต่อาจเป็นปัญหาภาระงบประมาณของประเทศระยะยาว ซึ่งอาจมีผลเชื่อมโยงต่อการปรับขยายฐานเงินเดือนและสวัสดิการของข้าราชการระดับต่างๆ ทั้งประเทศในอนาคต”

ฝ่ายค้านเลื่อนซักฟอก ก.พ.

นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า จะยื่นประมาณปลายเดือน ม.ค.เพื่อให้มีการพิจารณาในช่วงเดือน ก.พ.ซึ่งที่ไม่ยื่นในช่วงนี้ตามที่เคยแถลงไว้นั้นเพราะคิดว่าหากมีการอภิปรายจะติดในช่วงปีใหม่ อาจทำให้เรื่องนี้ดูไม่มีความหมายไปได้

นายสุทิน ยังได้กล่าวถึง กรณีที่ในสัปดาห์นี้ทางรัฐบาลยืนยันว่า ไม่ถอนญัตติการนับคะแนนใหม่ ว่า ฝ่ายค้ายก็ยังคงยึดจุดยืนเดิม แต่จะมีการหารือกันอีกครั้งในช่วงเช้าวันพุธ เพราะฝ่ายค้านก็เล็งเห็นว่าหากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ต้องต้องปิดการประชุมอีก ทำให้การพิจารณาเรื่องอื่นไม่สามารถดำเนินการต่อได้ แต่ถ้าฝ่ายรัฐบาลคนไม่พอจริงๆ ฝ่ายค้านอาจเข้าไปนั่งให้องค์ประชุม เพื่อให้มีการดำเนินวาระต่อไปได้ แต่ถ้ารัฐบาลจะต้องให้ฝ่ายค้านไปนั่งให้องค์ประชุมครบเป็นการสะท้อนว่ารัฐบาล ไม่ใช่แค่เสียงปริ่มน้ำ แต่ไม่มีเสถียรภาพเลย 

ถ้ารัฐบาลยังยืนยัน ที่จะนับคะแนนใหม่ก็ถือว่าเป็นสิทธิหากมั่นใจว่าองค์ประชุมครบ แต่ทางฝ่ายค้านก็ยังคงยืนยันในจุดยืนเดิม ทั้งนี้จะต้องดูต่อไปว่าหากมีการนับคะแนนใหม่อาจผิดรัฐธรนมนูญด้วยหรือไม่ ทางฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกครั้ง

วิปรัฐเมินถอนนับคะแนนใหม่ตั้งกมธ.

 

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวถึงการประชุมสภาฯ วันที่ 4 ธ.ค.นี้จะมีการถอนญัตติที่ขอให้นับคะแนนใหม่เรื่องญัตติการตั้ง กมธ.ศึกษาประกาศ คำสั่ง และการใช้อำนาจหัวหน้าคสช. หรือไม่ว่า จะไม่มีการทบทวนมติเรื่องขอให้นับคะแนนใหม่ แต่จะต้องหารือว่าจะทำอย่างไรให้องค์ประชุมวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ครบ เพื่อให้โหวตลงมติได้

พร้อมยืนยันว่าญัตติที่เสนอให้นับคะแนนใหม่ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญเพราะข้อบังคับดังกล่าวไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในช่วงที่มีผ่านมามีการใช้อยู่ตลอด และเขียนล้อตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสิ่งที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ วินิจฉัยจึงถูกต้องแล้ว

คาดว่าในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ องค์ประชุมจะครบ 249 เสียงซึ่งรัฐบาลจะมีส.ส.มาร่วมประชุม 253 คนขาดเพียงคนเดียวคือนายชัยชิดชอบส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทยที่ป่วย ถ้าองค์ประชุมไม่ครบผู้ใหญ่ก็ต้องมีมาตรการออกมาแต่ยังไม่มีการพูดถึงว่าจะเป็นแบบใด

นายกฯกั๊กร่วมมีตติ้งพรรคร่วมรบ.

สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมือง ภายหลังเหตุการณ์สภาล่ม 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 27-28 พ.ย.ที่ผ่านมา จากการพิจารณาญัตติตั้งกมธ. วิสามัญพิจารณาศึกษาและผลกระทบจากการใช้ประกาศคำสั่งของคสช. ทำให้มีการนัดพบปะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่สนามกอล์ฟ ราชพฤกษ์ ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ 

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม กล่าวว่า กำลังดูอยู่ว่าจะไปร่วมงานดังกล่าวหรือไม่ ถ้าตนไปก็คงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรหรอก ถ้าไปเยี่ยม ไปอะไรหน่อยก็คงจะได้ ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี คงไปอยู่แล้ว

ประวิตร”ซัด“ธนาธร”หวังปชช.เข้าใจผิด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธรออกมาพูดเรื่องการใช้เงินนอกงบประมาณกองทัพโดยไม่มีการตรวจสอบนั้น ยืนยันว่า กองทัพทำเรื่องของสวัสดิการ ให้ประโยชน์แก่ข้าราชการทหาร ประชาชน และข้าราชการที่มีรายได้น้อยทุกคน ทั้งนี้คงไม่จำเป็นต้องชี้แจงเพิ่มเติม เพราะโปร่งใสอยู่แล้ว โดยมีผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นตรวจสอบ คนที่ดำเนินการจะไปโกงได้อย่างไร

ชี้ต้องการให้ประชาชนเข้าใจผิด

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การออกมาเคลื่อนไหวและเปิดเผยเรื่องดังกล่าวมีเป้าประสงค์อย่างไร มองว่าต้องการทำให้คนเข้าใจผิด ซึ่งกองทัพก็ไม่มีอะไร ที่สำคัญกองทัพมีผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นตรวจสอบการใช้เงินอยู่แล้ว การจะจำหน่ายเงินออกไปมีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปรับปรุงการใช้เงินนอกงบประมาณ หรือจะคืนคลังหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะเปลี่ยนแปลงเรื่องอะไร คิดว่าเงินเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ดูแลกำลังพล เงินทองทั้งหมด ทุกขั้นตอนมีผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นกำกับการใช้ในทุกขั้นตอน ส่วนจะชี้แจงรายละเอียดเพื่อป้องกันสังคมเข้าใจผิดหรือไม่นั้น ก็ชี้แจงอยู่แล้วในตอนนี้ จะชี้แจงอะไรอีก ทั้งนี้ตามกฎหมายระบุไว้ว่า ส่วนไหนบ้างต้องส่งเข้าคลัง ส่วนไหนบ้างเป็นเงินนอกงบประมาณ ซึ่งเราก็ทำตามระเบียบทุกอย่าง