แจ้งความ 'ทวี-ปารีณา' ข้อหารุกป่า ฮุบที่ภ.บ.ท.5 ของชาวบ้าน

"อัจฉะริยะ" หอบเกษตรกรชาวสวนผึ้ง แจ้งความดำเนินคดีกับ "ทวี-ปารีณา" 2 พ่อลูก ตระกูลไกรคุปต์ ข้อหาบุกรุกป่าสงวน ในพื้นที่สวนผึ้ง และเขตจอมบึง กว่า 1,000 ไร่ และข้อหาฮุบที่ ภ.บ.ท.5 ของชาวบ้านอีก 30 ไร่

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 62 กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย น.ส.ปราณี นำพา อายุ 49 ปี ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผบก.ปทส. เพื่อร้องขอให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในข้อหาบุกรุกป่าสงวน ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2507 ม.14 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 ม.54 “ห้ามไม่ให้บุคคลใดยึดถือครองทำประโยชน์ อาศัยในที่ดิน แผ้วถางทำลายป่า หรือกระทำการใดอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าฯ” เนื่องจากได้ตรวจสอบและรังวัดจนพบว่าที่ดินฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” ขนาด 1,700 ไร่ ใน ม.6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่ น.ส.ปารีณา ถือครองอยู่นั้น กินบริเวณป่าสงวนที่ฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี รวมประมาณ 46 ไร่เศษ

อ่านข่าว-กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดี ฟาร์มไก่ 'เขาสน 2' รุกป่า

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ได้พาครอบครัว น.ส.ปราณี มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ นายทวี ไกรคุปต์ ในข้อหาฐานบุกรุกที่ดินของ น.ส.ปราณี กว่า 30 ไร่ และดำเนินคดีกับ นายทวี ไกรคุปต์ กรณีบุกรุกที่ดินป่าสงวนย่านสวนผึ้งกว่า 1,000 ไร่ และ น.ส.ปารีณา กรณีบุกรุกที่ดินแถบจอมบึงในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ยืนยันว่าตนมีหลักฐานเอาผิดทั้งสองคนได้ ซึ่งนับเป็นสิทธิของประชาชนที่สามารถร้องทุกข์ตามกฎหมาย เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดินจึงไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่รัฐหรือกรมป่าไม้เป็นเจ้าทุกข์ สำหรับประเด็นที่ น.ส.ปารีณา เตรียมแจ้งความกลับกับตนและ นายวีระ นั้น ไม่มีความกังวล ขอให้รีบไปแจ้ง ตนต้องการหมายศาลเพื่อที่จะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเร็วขึ้น

ทางด้าน น.ส.ปราณี ชาวบ้านหมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า พ่อตนได้ยกที่ดินให้ตนและน้องสาวกว่า 50 ไร่ เป็นผู้ครอบครองเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าถูก นายทวี บุกรุกล้อมรั้วปลูกต้นมะพร้าวไปกว่า 30 ไร่ และอ้างว่าเป็นที่ดินของ นายทวี ซึ่งที่ผ่านมา พ่อได้ใช้ที่ดินผืนทำมาหากินมากว่า 50 ปี ทั้งนี้ ได้นำเอกสารหลักฐานใบเสียภาษี ภ.บ.ท.5 ที่ ตนเองเสียภาษีมาตั้งแต่ ปี 2517-2557 และเอกสารการตรวจสอบของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 10 จ.ราชบุรี ที่ยืนยันการครอบครองที่ดินตามโครงการสำรวจถือครองเพื่อการจัดการที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ และเอกสารกรมป่าไม้ที่มีลายเซ็นเจ้าหน้าที่กำกับ ซึ่งก็เคยได้แจ้งความที่ สภ.สวนผึ้ง พร้อมกับร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า แม้เจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ นายทวี เข้ามาไกล่เกลี่ยแต่เจ้าตัวไม่ยอมเข้ามาพบ

ภายหลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน นายอัจฉริยะ กับ น.ส.ปราณี ได้เข้าพบชุกพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบปากคำทันที