ความคาดหวังโอเปคลดกำลังการผลิต + PMI จีนเป็นบวก หนุนบรรยากาศเก็งกำไรช่วงสั้น

ความคาดหวังโอเปคลดกำลังการผลิต + PMI จีนเป็นบวก หนุนบรรยากาศเก็งกำไรช่วงสั้น

จีนกดดันสหรัฐฯ ปรับลดภาษีลงเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้า

เราประเมินภาพรวมตลาดในระยะข้างหน้ามีโอกาสผันผวนสูงขึ้นหลังจีนยังคงยืนกรานที่จะให้สหรัฐฯ นำมาตรการยกเลิกการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าในเฟสแรก ซึ่งอาจส่งผลให้โมเมนตัมการฟื้นตัวเปราะบางและต้องใช้ความระมัดระวังในการไล่ซื่อมากขึ้น

ตัวเลขการผลิตของจีนที่เป็นบวกคาดช่วยลดแรงกดดันเชิงลบได้ระดับนึง สำนักงานเศรษฐกิจจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) ปรับขึ้นแตะ 50.2 สูงสุดในรอบ 7 เดือน และบ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัว (สูงกว่า 50) ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลข PMI ในหลายประเทศที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวเช่นเดียวกัน ยังคงหนุนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2563 อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวอาจช่วยหนุนตลาดได้จำกัดเนื่องจากนักลงทุนยังต้องการเห็นตัวเลขการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องมากกว่านี้

ราคาน้ำมันช่วยประคองตลาด ติดตาม OPEC meeting วันที่ 5-6 ธ.ค. เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อราคาน้ำมันโลกในช่วง 6 เดือนข้างหน้า จาก 1) ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่คาดฟื้นตัวดีขึ้นในปีหน้า 2) ปัจจัยหนุนราคาจากมาตรการ IMO 3) กลุ่มผู้ผลิตโอเปกที่คาดตรึงมาตรการลดการผลิตน้ำมันดิบต่อไปอีก (หรือกรณี positive surprise ลดกำลังการผลิตลงอีก) ซึ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับโมเมนตัมตลาดหุ้นที่เป็นบวก เรามองเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่น อาทิ PTT, PTTEP, TOP, SPRC

ตลาดระยะสั้นพักตัว แต่ยังมองเป็นจังหวะสะสม. แม้ระยะสั้นตลาดจะผันผวนตามข่าวความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ หลังจีนเพิ่มแรงกดดันให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีในปัจจุบันลงเพื่อบรรลุสัญญการค้ารวมถึงประเด็น geopolitical risk อื่นๆ แต่เรายังเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วจีน-สหรัฐฯ จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกันได้อย่างช้าสุดในเดือน ม.ค.63 นอกจากนี้ หากทรัมป์ตัดสินใจประกาศเลื่อนหรือยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้าจีนในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ออกไปจะเป็น trigger แรกที่ดันราคาหุ้นฟื้นตัว

เรายังเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง ช่วงสั้นตลาดมีโอกาสผันผวนทั้งจากปัจจัยภายนอก และความไม่มั่นใจสถานการณ์ภายใน โดยเราคง theme การลงทุนใน 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้ผันผวนระยะสั้น แต่คงมุมมองการลงทุนโดยรวมเป็นบวกในระยะกลาง ช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า // หุ้นแนะนำวันนี้ TOP, CPALL, WHAUP /เก็งกำไร  SPALI* (เป้า 19.00, ตัดขาดทุน 17.00)

แนวรับ 1590-1580 จุด / แนวต้าน : 1600-1605 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

ยอดใช้จ่าย g-wallet 2 เพิ่ม 10 เท่า ใน 1 เดือน – สศค.เผยมาตรการ ชิมช้อปใช้ หนุนการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มสูงขึ้นชัดเจนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า  g-Wallet ช่อง 2

อิรักส่งสัญญาณโอเปกอาจลดกำลังการผลิต – รมต.อิรัก ระบุ กลุ่มโอเปกอาจตัดสินใจลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณลดโดยรวมเป็น 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน สวนทางกับการส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ที่บ่งชี้ว่าโอเปกจะไม่ลดกำลังการผลิต

ค่าระวางเรือ – ดัชนี BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,528.00 จุด เพิ่มขึ้น 61.00 จุด, +4.16%

ประเด็นติดตาม: 2 ธ.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อไทย เดือน พ.ย. // 5-6 ธ.ค. – OPEC meeting // 6 ธ.ค. ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ // 15 ธ.ค. ทรัมป์พิจารณาขึ้น-ไม่ขึ้น ภาษีสินค้าจีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)