อนค.เปิดเกมชำแหละงบกลาโหม “ธนาธร”จี้ทบ.ปล่อยกู้ไร้ดอกเบี้่ย

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาฯ หลังจากนายธนาธร จึงรุ่งเรือง​กิจ​ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.)ประกาศจุดยืน โดยวานนี้(1ธ.ค.)ได้ออกเดินสายพบประชาชนในพื้นที่เขตลาดกระบัง กทม. โดยเริ่มต้นด้วยการร่วมเตะฟุตบอล เป็นคู่เปิดสนามรายการ All Friend Tournament ครั้งที่ 5 สนามหญ้าเทียมฮีโร่ซอคเกอร์ ซ.ฉลองกรุง 13 ก่อนเดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้ฅนเมือง ชุมชนบึงบัว เขตลาดกระบัง เยี่ยมชมโครงการฝึกอบรมอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่คนในชุมชนและนักศึกษา กศน.

ในช่วงท้ายของกิจกรรม นายธนาธร ได้แนะนำให้นักศึกษา กศน.ที่มาร่วมรับฟัง รู้จักและร่วมกันผลักดันแคมเปญ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญ ตามร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหาร ที่พรรคอนค.ได้ยื่นเข้าสู่สภาฯ แล้ว โดยพูดคุยสอบถามกับนักศึกษาที่เคยผ่านการเป็นทหาร ผ่านการจับใบดำใบแดงในระบบเกณฑ์ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน

 ต่อมาในเวลา 16.00 น.นายธนาธร บรรยายพิเศษที่พรรคอนาคตใหม่ ในหัวข้อ ชำแหละงบประมาณ กระทรวงกลาโหม โดยเริ่มต้นจากการหยิบยกร่างตัวอย่างการจัดทำงบประมาณให้ผู้เข้าร่วมงานได้ดู พร้อมกับระบุว่างบบูรณาการการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นงบที่มากที่สุด ตัวเลขมีการอ้างอิงว่ามาจากที่ใดบ้าง งบรายจ่ายภาพรวมของปีงบประมาณ 2563 เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค.2562 ถึง 30 ก.ย.2563 ทั้งสิ้น 3.2 ล้านล้านบาท และงบกว่า 2.7 ล้านล้านบาท มาจากภาษีของประชาชน และงบอีก 5 แสนล้านบาทมาจากเงินกู้ ที่รัฐบาลตั้งงบขาดทุนไว้ 3.2 ล้านล้านบาท 

ส่วนงบกระทรวงกลาโหมกว่า 233,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7 ของงบทั้งหมด มีเงินอีกส่วนอยู่นอกงบประมาณ สำนักงบประมาณของสภาฯ  งบประมาณรายจ่ายตรวจสอบมองเห็นและสามารถตรวจสอบได้ตั้งคณะกรรมาธิการสามารถสั่งตัดได้ ส่วนเงินนอกงบ มาจากไหนและใช้อะไรแทนจะมองไม่เห็นไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครเป็นคนสั่งจ่ายเอาไปใช้ที่ไหนอย่างไร

นายธนาธร ยังระบุอีกว่า มีกฎหมายอยู่ 3 ฉบับที่เอื้อให้กระทรวงกลาโหมมีความพิเศษ ประกอบด้วย พรบ.วินัยการเงินการคลังปี 2560 มาตรา 61 (3) ที่บัญญัติไว้ว่า เงินต้องสามารถตรวจสอบได้ หรือมีข้อตกลงกับกระทรวงการคลังเป็นอย่างอื่น ระเบียบกระทรวงการเงินการคลัง 2562 ตามระเบียบข้อบังคับข้อที่ 8 ให้ถือปฏิบัติตามข้อบังคับของกลาโหมว่าด้วยการเงินซึ่งได้รับการตกลงกับกระทรวงการคลัง ซึ่งกระทรวงอื่นไม่มีสิทธิพิเศษ 

ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการเงินปีพ.ศ. 2555 มีข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง ให้แบ่งกระทรวงการออกเป็น 2 ประเภทคือ 1 ทำตามเงินนอกงบประมาณกระทรวงเหมือนกระทรวงฯ และประเภท 2 หากระบบบัญชีที่ใช้ทั่วไป ไม่เหมาะสมให้สามารถตั้งระบบบัญชีเองได้พร้อมกับสามารถตั้งระบบตรวจสอบตนเองได้ ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดคำถาม ทำไมความสงสัยของประชาชนนายพลในประเทศมีรายได้มหาศาล รายชื่อสนช.ที่เกิดขึ้นจากการทำรัฐประหารปี 2557 ปี 2662 มีสมาชิกที่เป็นนายพลใน 81 คน ซึ่งมีทรัพย์สินเฉลี่ยคนละประมาณ 80 ล้านบาท พร้อมกับตั้งคำถามการรับราชการทั้งชีวิตสามารถมีรายได้มากขนาดนี้ ยืนยันว่าตัวเลขทั้งหมดตนไม่ได้ละเมอ หมายความว่าทุกคนต้องมีธุรกิจเสริมมากกว่ารับราชการทหาร ก่อให้เกิดการตั้งคำถามถึงอาชีพเสริมดังกล่าว ตนจึงทำหน้าที่ตรวจสอบ

ทั้งนี้จากการตั้งคำถามของ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของตนเมื่อ 4 วันที่ผ่านมาขณะนี้เองยังไม่มีการนำเอกสารชี้แจงมา จากหน่วยงานที่รับงบประมาณดังกล่าวไป พร้อมกับตั้งคำถามต้องใช้เวลากี่วันจึงสามารถชี้แจงได้ ซึ่งอาจโปร่งใสหรือไม่ก็ได้ โดยหากไม่ส่งเอกสารอาจตั้งข้อสงสียได้ว่าเกิดความผิดปกติแน่ๆ

ส่วนการตั้งบริษัท RTA หรือ Royal Thai Army Entertainment เรื่องนี้เริ่มตั้งแต่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ  นายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีในปี 2547 ที่มีแนวคิดการแปรรูปช่อง 5 เป็น RTA Entertainment จนปี 2549 เกิดรัฐประหาร มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานโดยผู้ถือหุ้นมากที่สุด คือกองทัพบก 50% ของผู้ถือหุ้นลำดับที่ 2-15 เป็นนายทหารทั้งหมด ซึ่งแม้มีการเปลี่ยนมีก็มีเพียงนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งปัญหาสำคัญของบริษัทคือบริษัทขาดทุน และขาดทุนสะสม 1,000 ล้าน ทั้งที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 10 ล้าน จะเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยรายงานของผู้สอบบัญชีปี 2561 ซึ่งกองทัพบกมีการให้เงินกู้ 1,200 ล้านบาท ซึ่งไม่มีการคิดดอกเบี้ย และเอาเงินที่ให้กู้มาจากที่ใด RTA นำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น แต่กลับขาดทุน

พร้อมกับยังตั้งคำถามถึง สนามมวยลุมพินี แห่งใหม่รามอินทรา ที่บริหารจัดการโดยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ จึงตั้งคำถามถึงสถานะว่าเป็นอย่างไร โดยไม่ใช่บริษัทจำกัด ซึ่งข้อมูลที่ทราบได้ว่า สร้างงบแระมาณ 380 ล้านบาท สร้างทุ่งมหาเมฆสร้างแล้วถูกยกเลิกไป และบริษัทเวิร์ดสปอตกรุ๊ปถือสัมปทานการถ่ายทอดสด แต่ไม่ทราบได้ว่าจ่ายค่าสัมปทานที่ใคร สนามมวยลุมพินีเกี่ยวข้องกับกองกีฬากรมสวัสดิการทหารบก แต่ไม่แน่ชัดขึ้นตรงกับใคร ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างของกองการกีฬาเกี่ยวข้องกับสนามมวยหรือไม่ พบว่าไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ไม่มีการประมูลงานแต่อย่างใด และ 70% เจาะไปที่ 1-2 บริษัทเท่านั้น พร้อมยกตัวอย่างการจัดซื้อจัดจ้าง จ.17 จ้างเหมาเครื่องปรับอากาศ ชื่อพลเอกประยุทธ์ แต่ไม่ระบุนามสกุล งบประมาณ 65,000 กว่าบาท ตนจึงตั้งคำถามว่าการติดเครื่องปรับอากาศต้องจ้างแบบเฉพาะเจาะจงเลยหรือ

นอกจากนี้ยังตั้งคำถามถึงสนามม้าโคราช ที่ยังไร้กังกัดและสถานะไม่มีข้อมูล ใครเป็นกรรมการบริหารโดยใคร ทราบเพียงสนามม้านางเลิ้งที่ย้ายไปยังจ.นครราชสีมา ย้ายไปอยู่ในค่ายสุรนารี ซึ่งตามระเบียบการจัดแข่งม้าต้องขอไปยังกระทรวงมหาดไทย ว่าใครเป็นผู้ถือใบอนุญาต ซึ่งได้มรการส่งคนลงไปขอเอกสารดังกล่าวไปยังศาลากลางจังหวัดแต่กลับไม่ได้รับคำตอบ

ด้านปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีเอกสาร 2 ฉบับยืนยันได้ว่ากองทัพมีการทำไอโอ พร้อมกับ ยกตัวอย่าง Facebook กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 มีการโพสต์ข้อความโจมตีทุกวัน ก่อให้เกิดความเกียจชังกันของคนในสังคม จึงตั้งคำถามไปยังกระทรวงกลาโหมว่ามีการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือไม่ และ ในงบของกระทรวงไม่มีการเขียนไว้ว่ามีการจัดสรรไปยังหน่วยปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร หากมีอยู่จริงอยู่ในแต่ละกองทัพเท่าใด และอำนาจในการกำหนดเนื้อหาอยู่ที่ใคร อยากให้ตอบคำถามนี้ดีๆ เนื่องจากอาจมีคนที่เคยทำงานในหน่วยดังกล่าวมาให้ข้อมูลตนก็ได้

นอกจากนี้ยังมีการระบุถึงการจัดซื้อ ยุทโธปกรณ์ ซึ่งเป็นงบผูกพัน ซึ่งกำหนดไว้ว่าทั้งงบใช้ได้ไม่เกิน 10% โดน 10 ปี เพิ่มขึ้น 2.3 เท่า ปีละ 1 หมื่น 9 พันล้าน กลายเป็น 4 หมื่น 3 พัน โดยนายธนาธรได้ยกตัวอย่างถึงความจำเป็นในการสร้างบ้านรับรองของกองทัพเรือ และเสนอตัดงบลง 40% เพื่อลดการเป็นหนี้ของประชาชน ซึ่งการลงทุนยุทโธปกรณ์ในระยะยาวไม่จำเป็นในสภาวะเศรษฐกิจนี้ 

กห.แจงรับสมัครทหารชั่วคราวลดงบ

ขณะที่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผย ถึงกรณีมีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่องการรับบุคคลเข้าทำหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราว เมื่อ 1 พ.ย.2562 ว่า ประกาศดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าปฏิรูปกองทัพในระบบงานกำลังพล ที่ตราไว้ใน พ.ร.บ.กำลังสำรอง พ.ศ.2558 เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลที่เคยเป็นทหาร หรือมีรายชื่อในบัญชีกำลังสำรอง สามารถสมัครเข้าทำหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราว ซึ่งทุกเหล่าทัพจะประกาศรับสมัครต่อไป โดยการหมุนเวียนกำลังพลสำรองเข้ามาเสริมกำลังประจำการที่อยู่ระหว่างปรับลดลงจะสามารถลดภาระงบประมาณของประเทศ โดยเฉพาะงบประจำด้านกำลังพล

“กำลังพลสำรองถือเป็นกำลังทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ ในการหมุนเวียนคนหนุ่มเข้ามาอยู่ในระบบบัญชี การเตรียมกำลังคนของประเทศตามห้วงอายุที่กำหนด เพื่อสนับสนุนระบบเตรียมความพร้อมของประเทศ หากเกิดภัยคุกคามที่ต้องใช้กำลังขนาดใหญ่ และสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนกันเองยามเกิดภัยทางธรรมชาติ ซึ่งนับวันจะขยายวงกว้างและทวีความรุนแรงมากขึ้น” พล.ท.คงชีพกล่าว

อ่านข่าว-'ธนาธร' ซัดกองทัพ ใช้งบประมาณส่อ ไม่โปร่งใส

วิปรัฐบาลจี้ทุกพรรคทำตามมติ

ด้านความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังเกิดปัญหาสภาฯล่ม จนส่อกระทบกับเสถียรพรรคร่วมรัฐบาล

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยถึงการแก้เกมหลังเกิดเหตุสภาฯล่มถึง 2 ครั้ง ว่า เรื่องนี้อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพราะไม่ได้ทำตามมติวิปรัฐบาล และยังมีส.ส.โหวตสวนมติพรรคและวิปรัฐบาล โดยที่ไม่สอบถามวิปว่าจะต้องเดินหน้าไปทางทิศทางไหน 

ขณะที่วันนี้ทาง ปชป.ก็ยืนยันว่าเป็นสิทธิของเขาที่กระทำได้ ดังนั้นเรื่องนี้ก็จะต้องแก้ในส่วนของส.ส.ปชป.ที่โหวตสวนมติ ส่วนที่นายกรัฐมนตรีและรองนายกฯ กำชับให้รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลรักษาองค์ประชุมให้ครบนั้น อันดับแรกก็อยากขอให้ ปชป.รักษาองค์ประชุมให้ครบ ไม่ใช่ไม่พอใจแล้วไม่มาและโหวตสวน รวมถึงขอให้ทำตามมติวิปรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะต้องปฏิบัติตามมติวิปรัฐบาล และเป็นองค์ประชุมให้แก่ฝ่ายรัฐบาล ส่วนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธานส.ส. ปชป. เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 3 ธ.ค.จะประชุมส.ส.พรรค เพื่อพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภา ที่จะดำเนินการต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่เเล้ว ที่เกิดกรณีองค์ประชุมสภาไม่ครบ เชื่อว่าการประชุมสภาในวันพุธที่ 4 ธ.ค.น่าจะไม่มีปัญหา

ฝ่ายค้านเตรียมถกหาทางออก

ขณะที่วิปฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหากฟากรัฐบาลยืนยันที่จะให้นับคะแนนใหม่กรณีการตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจากมาตรา 44 ฝ่ายค้านจะวอล์กเอาท์ไปเรื่อยๆ หรือไม่ว่า เราจะคุยกันเรื่องนี้ ในเช้าวันพุธที่ 4 ธ.ค.อีกครั้ง เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์สภาล่มขึ้นอีก เพราะเขาคงจะระดมคนได้ แต่ถ้าเขาทำไม่ได้จนชนิดจนปัญญากับเรื่องนี้แล้วจริงๆเราก็อาจจะพิจารณาจะช่วยเขาสักครั้งหนึ่ง เพื่อให้เรื่องแก้รัฐธรรมนูญได้เข้าหรือไม่ ซึ่งเราก็ต้องชั่งน้ำหนัก เพราะเราก็ห่วงเรื่องจุดยืนของเรา และบรรทัดฐานในอนาคตด้วย 

พท.ระส่ำกดดันปลด“สุดารัตน์”

ขณะที่ความเคลื่อนไหวในพรรคเพื่อไทย มีรายงานข่าวว่า ส.ส.ภาคอีสานของพรรคเพื่อไทย 68 คน นำโดยแกนนำพรรคภาคอีสาน เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่ดูไบ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา

เพื่อขอหารือเป็นส่วนตัว และเป็นรายบุคคล  โดยสาเหตุเนื่องจากความไม่พอใจแทรกแซงการบริหารงานภายในพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค และจะขอเปลี่ยนตัวเป็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือยกเลิกตำแหน่งนี้ 

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการเมืองภายใน โดยเฉพาะการพิจารณาตำแหน่งประธาน กมธ.ต่างๆ ซึ่งพรรคได้โควตา 13 คน ภาคอีสานมี ส.ส.84 คน ควรจะได้ 8 คน แต่ถูกตัดเหลือ 5 คน อีกทั้งปัญหาบทบาททับซ้อนกับหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ทำให้เกิดความอึดอัด อาทิ ประธานยุทธศาสตร์ประกาศจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ “3 ป.” และรัฐมนตรีบางคน แต่เป็นการประกาศออกไป ทั้งที่ยังไม่มีการหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ

ขณะที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ประธานภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกระแสข่าว ส.ส.ไม่พอใจการทำงานของคุณหญิงสุดารัตน์ว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มีความเคลื่อนไหวอย่างที่เป็นข่าว ที่ทำให้พวกเราเสียหาย การไปต่างประเทศทุกคนก็ออกค่าใช้จ่ายกันเอง ไม่ได้เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวออกมา