'จุรินทร์' ขึ้นเหนือคิกออฟประกันราคามันสำปะหลัง

'จุรินทร์' ขึ้นเหนือคิกออฟประกันราคามันสำปะหลัง

"จุรินทร์" ขึ้นเหนือ ประกาศคิกออฟ เปิดโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ยืนยันได้เงินจริง พร้อมประกาศทำโครงการคู่ขนานส่งขายต่างประเทศเพิ่มรายได้เกษตรกร

วันที่ 1 ธันวาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันเปิดงาน Kick Off เปิดโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี2562/63 ครั้งที่ 1 ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยภายในงานมีเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงที่ลงทะเบียนการประกันราคาไว้กับทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีว่า รัฐบาลได้กำหนดการประกันราคามา โดยเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ จะให้ครอบครัวละ 30 ไร่ เป็นการเพิ่มเงินในกระเป๋าขวา โดยรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนต่างระหว่างราคาตลาดกับราคาที่รัฐบาลประกันไว้ ยกตัวอย่างเช่นสมมุติว่าราคาตลาดอยู่ 2 บาทต่อกิโลกรัม แต่รัฐบาลประกันไว้ที่ 2.50 บาท รัฐบาลก้จะจ่ายเงินอุดหนุนในส่วนต่าง 50 สตางค์ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น คือกระเป๋าซ้ายได้ราคาตามท้องตลาด กระเป๋าขวาได้เงินส่วนต่างจากรัฐบาล ทำให้มีรายได้ตามที่ควรจะเป็น

โดยผู้ที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับการประกันราคาคือ เกษตรกรที่ได้ลงทะเบียนไว้กับเกษตรตำบล เกษตรอำเภอ หรือธกส. โดยนอกเหนือการประกันราคาแล้ว รัฐบาลยังมีการทำโครงการคู่ขนาน เช่นกระตุ้นให้มีการใช้มันสำปะหลังในประเทศเพิ่มมากขึ้น ในขณะนี้ได้มีการเริ่มใช้พลาสติดชีวภาพ ซึ่งมีมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งตรงนี้เองจะเพิ่มความต้องการการใช้มันสำปะหลังของภาคอุตสาหกรรม ทำให้ราคามันสำปะหลังก็จะดีขึ้นตาม

นอกจากนี้ทางรัฐบาลได้มีการไปเจรจาการค้ากับต่างประเทศ ล่าสุดพึ่งไปเจรจากับหนานหนิงประเทศจีน และเซ็นเอ็มโอยู ร่วมกันในการซื้อมันสำปะหลังจากประเทศไทย 2.6 ล้านตัน เป็นมูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาท และยังมองถึงตลาดอินเดียที่เริ่มรณรงค์ในการใช้พลาสติกชีวภาพ ซึ่งจะต้องใช้มันสำปะหลังเป็นจำนวนมาก ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการพูดคุย นอกจากนี้ยังมีตลาดองประเทศตุรกี ที่มีความต้องการมันสำปะหลังแต่ยังติดที่กำแพงภาษีที่สูง 7-8 เปอร์เซ็น ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลก็กำลังเจรจาทำ FTA หรือเขตการค้าเสรี กับทางตุรกีเพื่อให้ไม่มีภาษีในการนำเข้าไปขายในตุรกี ซึ่งตรงนี้จะมาช่วยเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

โดยหลังจากการกล่าวบนเวทีเสร็จนายจุรินทร์ ได้เดินพบปะกับพี่น้องเกษตรกรที่มาร่วมงาน พร้อมมีการมอบดอกไม้และพวงมาลัย พร้อมมีป้ายข้อความว่า “รองนายกฯสู้ๆ” และ “รักท่านจุรินทร์” ชูให้กำลังใจอีกด้วย หลังจากนั้นได้มีการตีกลองสะบัดชัยเพื่อเป็นสัญญาณว่าได้เริ่มโครงการเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ได้เป็นสักขีพยานในการเบิกเงินจำนวนแรกของเกษตรกรที่มารอรับ รวมถึงเป้นสักขีพยานในการลงบันทึกข้อตกลงร่วมกันของ 4 สมาคมเกี่ยวกับมันสำปะหลังคือ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย , สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย , สมาคมโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังไทย และ สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยหลังจากพิธีเสร็จสิ้นนายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การประกันรายได้เป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล วันนี้ถือเป็นวันจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกของการประกันรายได้มันสำปะหลัง ซึ่งรัฐบาลประกันรายได้ไว้ที่ 2.50 บาท ครอบครัวละไม่เกิน 30 ไร่ ถ้าครอบครัวไหนมี 30 ไร่ ก็จะได้เงิน 23,000 บาท ต่อครอบครัว 1 ปี ได้เงินหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็ไม่ได้ดำเนินการแต่ประกันรายได้ รัฐบาลก็มีนโยบายส่งเสริมคู่ขนานไปด้วยกัน อย่างเช่นการเพิ่มคุณภาพผลผลิต และการเพิ่มการใช้มันในประเทศ เพื่อให้เกิดการยกราคาผลิตผลอย่างยั่งยืน

“ขณะนี้เราก็มีนโยบายอย่างชัดเจนให้นำมันสำปะหลังไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตไบโอพลาสติก หรือพลาสติกชีวภาพซึ่งมีมันสำปะหลังเป็นส่วนประกอบ และรณรงค์ในการเลิกใช้พลาสติดที่ไม่ใช่ชีวิภาพเพราะมีปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นก็จะดำเนินนโยบายให้นำมันสำปะหลังไปทำเป็นพลาสติกชีวภาพ เพราะสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายจุรินทร์ กล่าว