กระแสรักสุขภาพในจีนหนุนราคาอัลมอนด์ทะยาน

กระแสรักสุขภาพในจีนหนุนราคาอัลมอนด์ทะยาน

ความต้องการบริโภคถั่วในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพในจีน ช่วยหนุนให้ราคาถั่ว โดยเฉพาะอัลมอนด์ในตลาดโลกทะยาน แม้รัฐบาลปักกิ่งเก็บภาษีนำเข้าถั่วในอัตราสูงเพื่อตอบโต้สหรัฐแต่จีนยังคงสั่งซื้อสินค้าประเภทนี้จากสหรัฐ

บรรดาชาวจีนที่รักสุขภาพ กำลังช่วยหนุนราคาถั่วหรือผลิตภัณฑ์ถั่วในตลาดโลกทะยานขึ้น โดยเฉพาะอัลมอนด์ ขณะที่สภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้ผลผลิตถั่วชนิดนี้ลดลง โดยในเดือนส.ค. รัฐบาลปักกิ่ง เก็บภาษีถั่วนำเข้าจากสหรัฐในอัตราที่สูงถึง 60% เพื่อตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บสินค้านำเข้าจากจีนในระดับที่เท่าเทียมกัน

หลังจากที่ราคาทะยานขึ้นไปอยู่ที่ปอนด์ละ 3.60 ดอลลาร์เมื่อเดือนก.ค. ตอนนี้ราคาอัลมอนด์เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณปอนด์ละ 3.45 ดอลลาร์ แต่ยังถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 15% จากปีก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.

บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ปีนี้การเก็บเกี่ยวผลผลิตซึ่งเสร็จสิ้นในเดือนต.ค.จะให้ผลผลิต 2.3-2.35 พันล้านปอนด์ เป็นตามที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยสหรัฐผลิตอัลมอนด์ได้ประมาณ 80% ของปริมาณการผลิตอัลมอนด์ทั่วโลก โดยมีรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีการปลูกอัลมอนด์รายใหญ่สุดของโลก และในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ พื้นที่ที่มีการปลูกอัลมอนด์บางแห่งในสหรัฐได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวเย็นและฝนตกชุก

ขณะที่ความต้องการอัลมอนด์ทั่วโลกยังคงแข็งแกร่ง โดยในสหรัฐนมอัลมอนด์ และเนยอัลมอนด์กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากผู้บริโภคอเมริกันหันมาบริโภคสิ่งนี้แทนผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งในบรรดาชาติตะวันตก นิมอัลมอนด์ได้รับความนิยมมากกว่านมถั่วเหลือง ซึ่งเป็นที่นิยมในภูมิภาคเอเชีย ส่วนในจีน ได้รับความนืยมนำมาทำขนมปังและขนมหวาน

นมอัลมอนด์ เป็นนมจากพืชอีกชนิดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้รักสุขภาพ เนื่องจากนมอัลมอนด์ เป็นนมจากพืชที่ปราศจากคอเรสเตอรอล และกลูเตน อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์เสมือนการทานอัลมอนด์เต็มเมล็ด ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่ดีต่อสุขภาพ ในนมอัลมอนด์ มีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มวิตามินอีสูง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้เป็นอย่างดี มีฟลาโวนอยส์ (Flavonoids) ที่ช่วยปกป้องผนังหลอดเลือด จึงทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

ส่วนไขมันในอัลมอนด์ เป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยเพิ่มระดับไขมันตัวดี (เอชดีแอล) ในขณะที่ลดไขมันตัวไม่ดีอย่าง (แอลดีแอล) ลงได้ จึงสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้

นอกจากนี้ใน อัลมอนด์ ยังมีโพสแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยในการควบคุมความดันโลหิต ลดอาการอ่อนเพลีย และยังมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อกระดูกและฟันอย่าง แมกนีเซียมและโพแทสเซียมด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลปักกิ่งจะจัดเก็บภาษีอัลมอนด์นำเข้าจากสหรัฐในอัตราที่สูงถึง 60% เพิ่มขึ้นจาก 50% ช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในแวดวงการค้าอัลมอนด์ ก็ให้ความเห็นว่า การนำเข้าปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่คาด ซึ่งคณะกรรมการอัลมอนด์แห่งแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า การส่งอัลมอนด์เข้าไปในจีนและฮ่องกง นับจนถึงเดือนส.ค.ปี 2562 ปรับตัวลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้านี้

จีนไม่ได้ซื้ออัลมอนด์สหรัฐเพียงรายเดียว แต่สั่งซื้อจากออสเตรเลียด้วย โดยไม่ได้เก็บภาษีนำเข้า และแม้ออสเตรเลียจะให้ราคาจีนดีกว่าประเทศอื่นๆ แต่ราคาอัลมอนด์ออสเตรเลียก็ยังถูกกว่าอัลมอนด์สหรัฐ ซึ่งคณะกรรมการอัลมอนด์ ระบุว่า การส่งออกอัลมอนด์ของสหรัฐไปจีนและฮ่องกง ช่วง 3เดือนจนถึงเดือนต.ค.ปี 2562 เพิ่มขึ้นมากถึง 29% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้

แนวโน้มของอัลมอนด์คล้ายกับตลาดวอลนัท โดยในสหรัฐ ซึ่งถือเป็นประเทศผลิตวอลนัทรายใหญ่สุดอันดับ2ของโลก เจ้าหน้าที่คาดการณ์เมื่อเดือนก.ย.ว่า ผลผลิตวอลนัทรายปีจะลดลงเหลือ 570,000 ตัน ลดลง9% จากตัวเลขคาดการณ์เดือนก.ค.สืบเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้่ออำนวยในแคลิฟอร์เนีย ส่วนราคาวอลนัทเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณปอนด์ละ 3.50 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ประมาณ 40%

แม้ว่าประเทศที่ผลิตวอลนัทรายใหญ่สุดของโลกคือจีน โดยเฉพาะในมณฑลยูนนานเป็นแหล่งผลิตหลัก แต่บริษัทค้าวอลนัท แห่งหนึ่งก็ระบุว่า บรรดาผู้ผลิตขนมหวานในจีนยังคงนิยมสั่งซื้อวอลนัทจากสหรัฐมากกว่า ทำให้สัดส่วนการนำเข้าถั่วประเภทนี้สูงถึง 70-75% ด้วยกัน

ส่วนเม็ดมะม่วงหิมพานต์ราคาก็สูงเช่นกัน แม้ปัจจุบันราคาถั่วชนิดนี้จะปรับตัวลง จากที่เคลื่อนไหวที่ราคาประมาณ 5.50 ดอลาร์ในช่วงปี 2561 โดยขณะนี้ราคาเม็ดมะม่วงหิมพานต์อยู่ที่ประมาณ 4.10 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่ายังเป็นราคาที่สูงสุดในรอบ 10 ปี