ตึงเครียดการค้าจีน-สหรัฐฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

ตึงเครียดการค้าจีน-สหรัฐฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

ตึงเครียดการค้าจีน-สหรัฐฉุดดาวโจนส์ปิดลบ หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมาย “Hong Kong Human Rights and Democracy Act” สร้างความไม่พอใจให้กับจีนในช่วงเวลาที่สหรัฐและจีนยังคงเดินหน้าเจรจาการค้า

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (29พ.ย.)ปรับตัวลง ท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงาในวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า (แบล็ก ฟรายเดย์) ซึ่งตลาดจะปิดทำการเร็วกว่าปกติ ขณะที่ภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามอนุมัติกฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีนอย่างมาก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 112.59 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 28,051.41 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 12.65 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 3,140.98 จุดและดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 39.70 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 8,665.47 จุด

ทั้งนี้ สถานการณ์การค้าสหรัฐ-จีน กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมาย “Hong Kong Human Rights and Democracy Act” ซึ่งกฎหมายนี้จะคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบในการทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานและการปกครองตนเองในฮ่องกง

การตัดสินใจดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ สร้างความไม่พอใจให้กับจีนในช่วงเวลาที่สหรัฐและจีนยังคงเดินหน้าเจรจาการค้า โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศว่า จีนไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาดที่สหรัฐลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และจีนจะดำเนินมาตรการตอบโต้กับสิ่งที่จีนมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน

สำหรับสถานการณ์ในฮ่องกงนั้น กลุ่มผู้ประท้วงประกาศว่าจะรวมตัวชุมนุมกันโดยเริ่มจากวันนี้ไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ และจะปักหลักชุมนุมต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ คาดว่ากลุ่มผู้ประท้วงจะได้รับการสนับสนุนครั้งใหญ่จากกลุ่ม Civil Human Rights Front ที่วางแผนจัดการชุมนุมในวันที่ 8 ธ.ค. โดยกลุ่ม Civil Human Rights Front เป็นผู้จัดการชุมนุมที่สามารถดึงประชาชนเข้าร่วมได้นับล้านคนเมื่อเดือนมิ.ย.