โบรกลุ้นLTFพยุงหุ้นเดือนธ.ค. คาดเงินไหลเข้าอีก1-2หมื่นล้าน

โบรกลุ้นLTFพยุงหุ้นเดือนธ.ค. คาดเงินไหลเข้าอีก1-2หมื่นล้าน

โบรกฯคาดหุ้นไทยเดือนธ.ค.แกว่งตัวในกรอบ 1,570-1,640 จุด จับตามเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ประชุมโอเปก -กองทุนใหม่ทดแทนกองทุนแอลทีเอฟ ด้านบล.ทรีนีตี้ คาดมีเม็ดเงินแอลทีเอฟเดือนสุดท้าย 1-2หมื่นล้านบาทหยุงตลาด

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือน ธ.ค. คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,570-1,630 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี คือ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน  ซึ่งต้องติดตามดูว่าสหรัฐจะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 15% บนสินค้า 1.6 แสนล้านดอลลาร์ ในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ตามที่เคยแจ้งไว้ก่อนหน้าหรือไม่

ทั้งนี้หากมีการเก็บภาษีดังกล่าวเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุน แต่เชื่อว่าผลกระทบไม่มากเพราะ สหรัฐประกาศเรื่องนี้มานานแล้วและนักลงทุนรับรู้ไปแล้ว  แต่หากสหรัฐ ประกาศเลื่อน หรือยกเลิกการเก็บภาษีดังกล่าว จะหนุนให้ ดัชนีขึ้นไป1,620-1,630 จุด และอีกปัจจัยคือ ทิศทางราคาน้ำมันดิบ โดยบล.ทรีนีตี้ ประเมินว่ามีโอกาสมากกว่า50 % ที่ การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)และนอนโอเปก ในวันที่ 5-6 ธ.ค. จะไม่ลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มอีก แต่เป็นการคงลดในอัตราเดิม ซึ่งจะผลลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน เพราะก่อนหน้านี้ที่ราคา

 อย่างไรก็ตามหากดัชนีปรับตัวลดลงมาจะมีแรง จากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( LTF) ที่คาดว่าจะเข้ามาซื้อในช่วงเดือนสุดท้ายประมาณ 1-2 หมื่นล้านบาท

สำหรับคำแนะนำในช่วงเดือนสุดท้ายปีนี้  แนะนำลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย หุ้นปันผลสูง และ เก็งกำไร หุ้นที่เข้าคำนวณในดัชนี SET 50 คาดวว่าหุ้นจะเข้าคือ VGI

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเดือนธ.ค.แกว่งตัวในกรอบ 1,590-1,630 จุด ซึ่งปัจจัยต้องติดตาม 3 ประเด็น เรื่องเจรจากการค้าสหรัฐกับจีน  การประชุมโอเปก   และความชัดเจนกองทุนใหม่ที่ทดแทน LTF   ซึ่งทางบล.กสิกรไทยคาดว่าสหรัฐ-จีนจะบรรลุข้อตกลงเฟส1กันได้  และยกเลิกการเก็บภาษีที่จะเก็บในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ จะให้ตลาดหุ้นขึ้นต่อไปแตะระดับ 1,630จุด ได้  และหากสหรัฐมีการยกเลิกการเก็บภาษีจากจีนวงเงิน1.1แสนล้านดอลลาร์ที่เก็บในช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมาด้วย ยิ่งเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นให้สามารถปรับตัวขึ้นไปแตะ1,650 จุด

ทั้งนี้บริษัทแนะนำการลงทุนในเดือนธ.ค. โดยแบ่งเป็น 2 ธีมการลงทุน คือ ลงทุนหุ้น โกลบอล เพย์ เพราะ คาดว่าจีนกับสหรัฐจะเจรจาการค้าได้ แนะนำ  IVL และ  PTTEP  และธีมการลงทุนภายในประเทศ แนะนำ  BEM และ CK เพราะในเดือนธ.ค.มีโอกาสนำเรื่องต่อสัมปทานทางด่วนเข้าครม.

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยเดือนธ.ค.จะแกว่งตัวในกรอบ 1,590-1,640 จุด  ปัจจัยสำคัญติดตามการเจรจาการค้าของสหรัฐกับจีนที่จะมีผลต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย ส่วนแรงซื้อ LTF คาดว่าปีนี้จะเข้ามาน้อยกว่าสถิติที่ผ่านมาที่ 2 เดือนสุดท้ายของปีจะมีแรงซื้อ3-4 หมื่นล้านบาท แม้ปีสุดท้าย เพราะ ภาวะเศรษฐกิจชะลอ ส่งผลกำไรของบริษัทไทย ทำให้อาจมีการชะลอจ่ายโบนัสปลายปีนี้ เป็นต้นปีหน้า