เก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกในช่วงเดือนธ.ค.

เก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกในช่วงเดือนธ.ค.

บรรยากาศลงทุนช่วงสั้นชะลอติดตามการหารือการค้า

หลังประธานาธิปดีสหรัฐฯ ลงนามในกฎหมายส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง จีนได้เรียกฑูตสหรัฐฯ เข้าพบ ขณะที่มีข่าวว่าทางการจีนเตรียมขึ้นบัญชีดำบุคคลที่มีส่วนกับการร่างกฎหมายดังกล่าว ทำให้บรรยากาศการลงทุนช่วงสั้นชะลอจากโอกาสได้ข้อตกลงการค้าที่อาจล่าช้า อย่างไรก็ตามเรายังคงมุมมองสหรัฐฯ และจีน จะแยกการเมืองระหว่างประเทศ ออกจากการหารือทางการค้า

กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมปรับลดลงแรง หลังมีการรายงานข่าวว่าอินเดียพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และมีการเตรียมเสนอแพ็คเกจทางภาษีและสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนทางตรง (FDI) จากนักลงทุนต่างชาติ โดยมีข่าวว่ามีการติดต่อบริษัทกว่า 324 แห่ง ซึ่งรวมทั้งเทสลา และแกล็กโซ่ (บริษัทผลิตยา) ซึ่งประเด็นดังกล่าวคาดเป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมในไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง AMATA และ WHA

กลุ่มการแพทย์ เข้าสู่ช่วง high season ของการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4-1 อย่างไรก็ตามเรามองกลุ่มที่อยู่ในกระแสเก็งกำไรคือหุ้นโรงพยาบาลในประเทศที่รับผู้ป่วยประกันสังคม จากประเด็นที่สำนักงานประกันสังคมจะมีการพิจารณาปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัวผู้ป่วยประกันสังคมขึ้นในวันที่ 11 ธ.ค. ซึ่งจะส่งผลดีและเป็นอัพไซต์ต่อผลการดำเนินงานของ BCH และ CHG

เรายังเน้น selective buy ในหุ้นที่โมเมนตัมกำไรช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก พื้นฐานแกร่ง ราคาไม่แพง ช่วงสั้นตลาดมีโอกาสผันผวนทั้งจากปัจจัยภายนอก และความไม่มั่นใจสถานการณ์ภายใน โดยเราคง theme การลงทุนใน 1) สาธารณูปโภคที่ยังไม่แพง WHAUP, SSP, NNCL 2) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันทรงตัว อาทิ EPG, BJC, BGC, DCC โรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO 3) กลุ่มโรงแรม AOT, MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว // รวมถึงหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ ADVANC, INTUCH, VRANDA*, TEAMG, MTC, SAWAD, VNT*, CPN // กลุ่มการแพทย์ ร.พ.ขนาดเล็กเด่น RPH*, RJH*, CHG

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้ผันผวนระยะสั้น แต่คงมุมมองการลงทุนโดยรวมเป็นบวกในระยะกลาง ช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า // หุ้นแนะนำวันนี้ BCH*, WHAUP /เก็งกำไร  SPALI* (เป้า 19.00, ตัดขาดทุน 17.00)

แนวรับ 1590 จุด / แนวต้าน : 1605 สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

เฟดชี้ชาวอเมริกันเป็นผู้แบกรับภาระการขึ้นภาษีสินค้าจีน – เฟด (นิวยอร์ก) ระบุ บริษัทจีนไม่ได้ปรับลดราคาสินค้าลงเพื่อชดเชยการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าแต่อย่างใด ขณะที่บริษัทรวมถึงผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น

ศก.ไทย เดือน ต.ค.ยังได้แรงหนุนจากการบริโภค+ตัวเลขนักท่องเที่ยว –ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่โต 12.5% ต่อปี อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากภาะเศรษฐกิจภายนอกที่กดดันตัวเลขส่งออก

ราคาหมูขึ้นแรงจากโรค ASFอุปนายกสมาคมเลี้ยงสุกรฯ มองราคาหมูทั่วโลกขึ้นแรงหลังอุปทานขาดแคลนหนักจากโรคระบาด ASF ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในจีนที่ผลผลิตลดมากกว่าครึ่ง เชื่อหมูไทยได้อานิสงส์เต็มที่

TMBการใช้สิทธิ์เพิ่มทุน 90% ได้เงิน 3.8 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 4.25 หมื่นล้านบาท แต่เพียงพอเข้าซื้อธนชาต

สื่อสารติดตามสงครามราคาระลอกใหม่ ผ่านแพ็คเกจเติมเงิน ซึ่งราคาแพ็คเกจที่ราว 200 บาท/เดือน ต่ำกว่าแพ็คเกจแบบรายเดือนที่ใกล้เคียงกันมากกว่าครึ่ง อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ต่อเลขหมาย

ประชุมโอเปค – วันที่ 5-6 ธ.ค. คาดไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างมีนัยบสำคัญ

ค่าระวางเรือ – ดัชนี BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,467.00 จุด เพิ่มขึ้น 27.00 จุด, +1.88%

ประเด็นติดตาม: 2 ธ.ค. – China Caixin Manufacturing PMI เดือน พ.ย., US ISM Manufacturing PMI เดือน พ.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)