Sideways Down

Sideways Down

Trading Buy (จุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Slightly Negative และคาดดัชนีฯ Sideways Down แนวรับ 1600 / 1595 จุด แนวต้าน 1615 / 1622 จุด เป็นผลจาก 1) การเจรจาการค้าอาจมีอุปสรรค หลัง ปธน.ทรัมป์ ลงนามในกฎหมาย HK Human Rights Bill เช้านี้ 2) เสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มสั่นคลอน จากเสียงแตกเรื่องมติกรรมการวัตถุอันตราย พลิกมติและผลการนับคะแนนโหวตตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบม.44 วานนี้ที่มีเสียงพรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุน 3) สัญญาณเทคนิคอาจเปลี่ยนเป็นเชิงลบ หากหลุดแนวรับ 1600 / 1595 จุด ประเด็นสำคัญวันนี้: USA-ตลาดหุ้น-ตลาดพันธบัตร ปิดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า Japan-ยอดค้าปลีกเดือน ต.ค. คาด -10% MoM (Vs เดือน ก.ย. +7.1%)

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้

ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1604-1613 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ระดับ 1,607.27 จุด ลดลง 2.11 จุด หรือ -0.13% วอลุ่ม 5.12 หมื่นล้านบาท กลุ่มอุตฯ นาลง ได้แก่ ICT -1.43% วัสดุก่อสร้าง -1.2% ขนส่ง -1.01% ส่วนกลุ่มอุตฯ ปรับสูงขึ้น ได้แก่ โรงพยาบาล +1.59% อาหาร +1.3%

ประเด็นสาคัญ

+ ตลำดหุ้นโลกขึ้นต่อ: DJIA +0.15% S&P500 +0.42% Nasdaq +0.66% ยังคงเดินหน้าทาสถิติสูงสุดใหม่ รับข่าวตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตดีกว่าคาด ทั้ง 3Q19 GDP ที่สูงกว่าคาดเป็น 2.1% QoQ (Vs เดิม 1.9% QoQ ) และรายงาน Fed Beige Book ส่งสัญญาณขยายตัวปานกลางในเดือน ต.ค. – พ.ย. ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นวันที่สี่ DAX +0.38% FTSE +0.36%

- น้ำมันดิบและทอง่คำกลับมำร่วง: WTI -USD0.30 ปิดที่ USD58.11/บาร์เรล Brent -USD0.21 ปิดUSD64.06/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ามันดิบสัปดาห์ก่อน สูงกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล (Vs คาดลดลง 4 แสนบาร์เรล) และคาดว่าการผลิตน้ามันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนราคาทองคาปิด -4.55% ปิดที่ USD1,455/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย

- Trade war: ปธน.ทรัมป์ ลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงแล้วเช้านี้ อาจสร้างความไม่พอใจให้กับจีนและเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาการค้าเพิ่มเติม
+ FTSE Rebalance Index: การทบทวนรายไตรมาส มีผลในวันที่ 20 ธ.ค. โดยดัชนี FTSE All World Index เพิ่มน้าหนัก BDMS, BTS, TMB และดัชนี FTSE Micro Cap เพิ่มหุ้น 2 บริษัท คือ ILM AIMCG

- ไทย: สานักเศรษฐกิจอุตฯ เผยดัชนีผลผลิตภาคอุตฯ เดือน ต.ค. -8.45% YoY เป็น 95.7 เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและการค้าที่ชะลอตัว และปรับลดคาดการณ์ปีนี้เหลือ -3.8% (Vs เดิม 0-1%) และคาดว่าจะเติบโต 2-3% ในปี2020 ทั้งนี้ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ HDD IC เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ส่วนอุตฯ อาหาร ทั้งการผลิตและการส่งออกคาดสูงขึ้น 1.2-1.5% และ 2.7-3% จากญี่ปุ่น (โอลิมปิก) จีน (ไก่) ส่วนอุตฯ ปิโตรคาดขยายตัวเล็กน้อย เนื่องจากราคาและสถานการณ์ส่งออกได้รับแรงกดดันจากสงครามการค้า

+ USA: 3Q19 GDP ครั้งที่สอง เติบโตดีกว่าคาดเป็น 2.1% QoQ (Vs ครั้งแรก 1.9% QoQ และ 2Q19 +2% QoQ ) โดยได้แรงหนุนจากมูลค่าของสินค้าคงคลังและการลงทุนโครงสร้างที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนแรงกดดันเงินเฟ้อ Core PCE price 3Q19 เติบโตลดลงเล็กน้อยเป็น 2.1% QoQ (Vs ครั้งแรก +2.2% QoQ และ 2Q19 +1.9% QoQ )

+ USA: ยอดขายสินค้าคงทนเดือน ต.ค. ดีกว่าคาด +0.6% MoM (Vs คาด -0.8% MoM , เดือน ก.ย. -1.4% MoM ) และยอดขายสินค้าคงทนไม่รวมภาคขนส่งเดือน ต.ค. เติบโตสูงถึง +0.6% MoM (Vs คาด 0.1% MoM , เดือน ก.ย. -0.4% MoM )

- ไทย: สภาป่วนวานนี้ หลังฝ่ายค้านวอล์คเอาต์ประทัวงรัฐบาลแพ้โหวตตั้งกมธ.ศึกษาผลกระทบม.44 และขอลงมติใหม่อีกรอบ โดยมี 6 เสียงพรรคปชป. โหวตสวนมติวิปรัฐบาล

กลยุทธ์: Trading Buy (จุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: BBL OSP HANA

หุ้นโมเมนตัมบวก: TMB CPF BH CHAYO RS AAV

หุ้นโมเมนตัมลบ: GPSC INTUCH DTAC AMATA SCN APP BWG

Derivatives: แนะถือ Long S50Z19 เก็งกาไร (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)