ขึ้นในกรอบจำกัด

ขึ้นในกรอบจำกัด

ดัชนีวานนี้อ่อนแรงลง หลังไร้ปัจจัยใหม่ช่วยหนุน

นอกจากนี้ คาดว่าเป็นแรงขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดปรับตัวขึ้นมาหลายวันก่อนหน้านี้  ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,607.27 จุด (-2.11 จุด) Volume 5.1 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,072.78 ลบ. TFEX Net +2,853 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +89 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 42.32 จุด +0.15% ขานรับการเจรจาการค้าสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มเชิงบวก และการเปิดเผยข้อมูลศก.ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ได้แก่ GDP Q3/62 ขยายตัว 2.1% สูงกว่าประมาณการครั้งแรก จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงมากเกินคาด และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ในเดือนต.ค.ดีดตัวขึ้น 0.6% ดีกว่าคาด

+สหรัฐเผยดัชนี PCE เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนต.ค.

+/-เฟดออกรายงาน Beige Book ชี้ศก.สหรัฐขยายตัวปานกลาง ขณะต้นทุนเพิ่มขึ้นเนื่องจากมาตรการภาษี

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 30 เซนต์ -0.5% ปิด 58.11 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การผลิตน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์   

-ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าอาจกระทบการเจรจาการค้ากับจีน

- สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ต.ค.หดตัว -8.45% รับผลกระทบสงครามการค้า ปรับลดคาดการณ์ MPI ทั้งปี เหลือ -1.2% จากเดิมคาด 0-1%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -1.5 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 30.22 บาท/US

*จับตา EU เผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนพ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีวันนี้ปรับตัวขึ้นได้จำกัดจากสศอ. ลดคาดการณ์ GDP อุตสาหกรรมปีนี้มาที่ -1.2% จากเดิมคาด 0-1% และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ต.ค. หดตัว -8.45% อีกทั้ง ทรัมป์ ผ่านกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงฮ่องกงคอยกดดันเพิ่มเติม คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,615 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นได้ประโยชน์กรณีกรมสรรพสามิตแตะเบรกภาษีความเค็ม (TKN TFMAMA)
  • หุ้นได้ประโยชน์มาตรการ "บ้านดีมีดาวน์" (SPALI AP LPN PF ORI ANAN)
  • หุ้นได้ประโยชน์จากเลื่อนใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ หรือ TAS 32 ไปอีก 3 ปี (PTTEP CPALL CPF MINT IVL ANAN PF TTCL)

หุ้นรายงานพิเศษ

PR9 - Analyst Meeting | Bloomberg Consensus 11.37 บาท “Neutral”

(+) แนวโน้ม 4Q62 คาดผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นจากปีที่ผ่านมา ตามการขยายตัวของกลุ่มลูกค้า Insurance และ Contract Company นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเมียนมาเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย ประกอบกับผ่านพ้นช่วงปัญหาน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังเติบโตจากฐานต่ำเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการเข้าตลาด ทั้งนี้ Bloomberg คาดกำไรปี 62 ราว 309 ลบ. ขณะที่ 9M62 บริษัทมีกำไรเท่ากับ 211 ลบ. คิดเป็น 68% ของประมาณการกำไรทั้งปี

(+/-) ขณะที่แนวโน้มปี 63 เดิมบริษัทตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 2 digits อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้เป้าการเติบโตดังกล่าวยังไม่ชัดเจน ขณะที่ ตึกใหม่คาดจะเริ่มเปิดให้บริการช่วงเดือน มี.ค. 63 จะช่วยเพิ่มปริมาณการรองรับผู้ป่วยอีก 77 เตียง จากปัจจุบันที่มีทั้งหมด 188 เตียง    อย่างไรก็ดี ผลประกอบการปี 63 คาดจะถูกกดดันจากการรับรู้ค่าเสื่อมราคาอีกราว 90-100 ลบ. ซึ่งคิดเป็นเพิ่มขึ้น 65% (เฉพาะในส่วนของค่าเสื่อมราคา)

หุ้นมีข่าว   

·      ALL – Analyst Meeting “มุมมองบวก”

·      แนวโน้ม 4Q62 เติบโตดี YoY และ QoQ โดย Backlog ณ ปลาย 3Q62 ราว 11,400 ลบ. คาดจะรับรู้ใน 4Q62 ราว 30% จาก 4 โครงการหลัก ได้แก่ 1) The Excel Hideaway Sukhumvit 50 (ถือสัดส่วน 51%) 2) The Excel Hideaway Sukhumvit 71 3) Impression Phuket และ 4) The Vision Ladprao- Nawamin ขณะที่ Backlog ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปี 63-65 นอกจากนี้ 4Q62 ยังเตรียม Launch โครงการ The Vision Ladprao- Nawamin Phase II มูลค่าราว 500 ลบ.และ Relaunch โครงการ Impression Phuket มูลค่ารวม 2,074 ลบ. ขายแล้ว 71% ส่วนที่เหลือ คิดเป็นมูลค่า 601 ลบ.

·      แนวโน้มปี 63 ผบห.ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20-30% โดยส่วนหนึ่งคาดว่าจะรับรู้จาก Backlog ณ ปลาย 3Q62 ราว 30% และยังเตรียมเปิดขายคอนโดมิเนียม Low Rise จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมราว 3,000 ลบ. นอกจากนี้ศูนย์การค้า The New Forum Plaza ที่ จ.ชลบุรีซึ่งอยู่ในแผนการสร้างรายได้ประจำปัจจุบันอยู่ในระหว่าง Renovate คาดพร้อมเปิดบริการราว 3Q63 ปัจจุบันมีผู้จองพื้นที่เช่าแล้วกว่า 90% ผบห.คาดรายได้เช่าจากโครงการนี้ราวปีละ 200 ลบ.

·      (+) กทพ. นัด CK (Bloomberg Consensus 27.76 บาท) เซ็นงานก่อสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง สัญญา 4 วงเงิน 6.6 พันลบ. ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ (ที่มา อินโฟเควสท์)

·      (+) RBF วางเป้าปี 63 รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากรง.เวียดนาม-อินโดฯหนุน ตั้งงบ 120-145 ลบ. ลงทุนเครื่องจักร-ห้องวิจัย (ที่มา อินโฟเควสท์)

·      (+) "ศักดิ์สยาม" รับ BEM (Bloomberg Consensus 11.82 บาท) ได้เปรียบทำตามกฎหมายกรณีรัฐแพ้คดีแข่งขัน ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน BEM คืบหน้า ลั่นธันวาคมนี้จบแน่ พร้อมเชิญเอกชนร่วมหารือก่อนสรุปเสนอ ครม. พร้อมเดินหน้าเร่งรัดโครงการลงทุนมั่นใจชงสร้างสายสีส้มเข้าครม.ทันปีนี้ วงในชี้ BEM ได้ประโยชน์แม้ต่อสัญญาแค่ 15 ปี พร้อมเดินหน้ายื่นสร้างทางด่วน 2 ชั้น (ที่มาทันหุ้น)

·      (-) PTT (Bloomberg Consensus 50.53 บาท) ครั้งแรก เจอคู่แข่ง LNG หลัง กฟผ.ประกาศให้ "ปิโตรนาส แอลเอ็นจี" ชนะประมูลจัดหาและนำเข้า LNG รวม 1.3 แสนตัน เริ่มปลายเดือนธันวาคมนี้ โบรกประเมิน PTT ยังไม่ได้รับผลกระทบเหตุจำนวนนำเข้ายังไม่มาก แต่เป็นสัญญาณต้องปรับตัว เพื่อรองรับการแข่งขัน ด้าน PTT ประเมินราคาน้ำมันปีหน้า 55-65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (ที่มา ทันหุ้น)

·      (+/-) AOT (Bloomberg Consensus 80.68) แจ้งผลการดำเนินงานประจำปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2562 ว่ามีกำไรสุทธิ 25,026 ลบ. – 0.51% โดยมีรายได้รวม +3.9% แต่ค่าใช้จ่ายรวม +8% หลักๆมาจาก 1) ผลประโยชน์พนักงาน +17% 2) ค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินราชพัสดุ +12% 3) ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา +12.7%