Sideways Up

Sideways Up

Trading Buy (จุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Slightly Positive และคาดดัชนีฯ Sideways Up แนวรับ 1605 / 1600 จุด แนวต้าน 1615 / 1622 จุด เป็นผลจาก 1) การเจรจาเฟสแรก ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ใกล้บรรลุข้อตกลงเร็วๆ นี้ 2) การคาดว่าจะมีเม็ดเงินจาก LTF+RMF รวมกว่า 3.7 หมื่นล้านบาท เข้ามาสนับสนุนตลาดในเดือน ธ.ค. 3) สัญญาณเทคนิคยังคงเป็นรูปแบบขาขึ้นไปที่ 1640 / 1650 จุด ตราบเท่าที่ยังไม่ต่ากว่า 1600 จุด โดยโมเมนตัมตลาดยังคงเก็งกาไรหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์กรณีจีนกับสหรัฐฯ เซ็นสัญญาการค้า เฟสแรก อาทิ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี ฯลฯ แม้ผลกาไรในระยะสั้นยังคงอ่อนแอ

ประเด็นสำคัญวันนี้: USA-Consumer Spending เดือน ต.ค. คาดสูงขึ้น +0.3% MoM (Vs เดือน ก.ย. +0.2% MoM ), Fed Beige Book, 3Q19E GDP ครั้งที่สอง คาด 1.9% QoQ (Vs 2Q19 +2% QoQ )

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้

ตลาดหุ้นไทย ปรับขึ้นไปที่ 1620.60 จุด +5.80 จุด ช่วงเปิดตลาด และแกว่งตัวกรอบแคบ 1611-1618 จุด ตลอดการซื้อขาย ก่อนมาปิดตลาดที่ระดับใกล้ต่าสุดของวันที่ 1,609.38 จุด -5.42 จุด -0.34% วอลุ่ม 8.79 หมื่นล้านบาท กลุ่มอุตฯ ที่นาลง ได้แก่ กลุ่มขนส่ง -1.08% ไฟแนนซ์ -0.81% ส่วนกลุ่มอุตฯ ที่ปรับสูงขึ้น คือ ปิโตรเคมี +2.35% รับเหมาฯ +1.37%

ประเด็นสาคัญ

+ ตลำดหุ้นโลกปรับขึ้นเล็กน้อย: DJIA +0.2% S&P500 +0.22% Nasdaq +0.18% เดินหน้าทาสถิติสูงสุดใหม่ รับข่าวที่ปรึกษาทาเนียบขาว เผยว่าสหรัฐฯ และจีน กาลังใกล้บรรลุข้อตกลงการค้า เฟสแรก หลังมีการหารือกันวันอังคาร และทั้งสองฝ่าย ตกลงที่จะเจรจากันต่อไปเกี่ยวกับประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ DAX -0.08% FTSE +0.09% CAC40 +0.08%

+ น้ำมันดิบขึ้นต่อ และทองฟื้น: WTI+USD0.40 ปิดที่ USD58.41/บาร์เรล Brent +USD0.62 ปิดUSD64.27/บาร์เรล คาดสต๊อกน้ามันดิบสัปดาห์ก่อนปรับลดลงกว่า 4 แสนบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ5 สัปดาห์ ส่วนราคาทองคาปิด +USD3.40 ปิดที่ USD1,460.30/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากค่าเงิน USD ที่กลับมาอ่อนค่า

+ ไทย: ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 2019 โดยใช้งบประมาณรัฐ 3.3 หมื่นล้านบาท และเกิดเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น 8 หมื่นล้านบาท ระยะกลาง 2-3หมื่นล้านบาท ผ่าน 3 มาตรการ 1. เพิ่มความเข้มแข็งของธุรกิจฐานราก (สนับสนุน เงินลงทุน พักชาระหนี้ 1 ปี ฯลฯ) 2. ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ครอบครัวละไม่เกิน 1 หมื่นบาท และ 3. มาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย โดยช่วยลดภาระผ่อนดาวน์ 5 หมื่นบาท สาหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อเดือน ระยะเวลาวันที่ 27 พ.ย. 2019 - 31 มี.ค. 2020 เฉพาะ 1 แสนรายแรก(+ผู้ประกอบการอสังหาฯ SPALI LPN ORI PSH)

+ USA: สุนทรพจน์ ประธานเฟด Powell ส่งสัญญาณบวกต่อภาวะเศรษฐกิจโดยเฉพาะการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง อันเป็นผลจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง การเพิ่มขึ้นของรายได้ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้น

- USA: ประธานเฟด สาขาดัลลัส คาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ 4Q19E จะเติบโตลดลง 0.5% จากภาคธุรกิจชะลอปริมาณสินค้าคงคลัง เพราะวิตกสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2020E จะเติบโต 2%

- USA: ยอดขายบ้านใหม่เดือน ต.ค. -0.7% MoM (Vs คาด +1.1%) เป็น 7.33 แสนยูนิต และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ลดลงเป็นเดือนที่สี่ที่ 125.5 (Vs คาด 127)

- ไทย: พรรคร่วมฝ่ายค้านนัดประชุมวันที่ 27 พ.ย. เพื่อกาหนดความชัดเจนว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นแบบรายบุคคลหรือคณะ คาดยื่นได้ในวันที่ 29 พ.ย. หรือ อย่างช้าในวันที่ 2 ธ.ค. และคาดว่าจะอภิปรายได้ไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค.

กลยุทธ์: Trading Buy (จุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: BBL OSP HANA

หุ้นโมเมนตัมบวก: IVL SPALI CK TFG SMT WICE CSS AP BWG JMART SABINA JKN

หุ้นโมเมนตัมลบ BGRIM TQM ACE TKN IP SUN

Derivatives: แนะเปิด Short S50Z19C1100 และ Short S50Z19P1100 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)