ม.หอการค้าฯ เปิด Co-working Space ปั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่

ม.หอการค้าฯ เปิด Co-working Space ปั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สร้าง UTCC Co-working Space เตรียมปั้นนักธุรกิจรุ่นใหม่ เจาะกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาชูกลยุทธ์นวัตกรรมขับเคลื่อนสตาร์ทอัพคอมมิวนิตี้ โดยได้รับการสนับสนุนจาก ดั๊บเบิ้ล เอ

สำหรับ UTCC Co-working Space บนความร่วมมือของดั๊บเบิ้ล เอ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแห่งนี้ ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1) Co-working Space เป็นพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน แบ่งปันความรู้ เพื่อสร้างสรรค์โครงการ และธุรกิจต่างๆ 2) Meeting Rooms รองรับการใช้งานที่เป็นส่วนตัว และการทำงานกลุ่มเล็ก เพื่อใช้แลกเปลี่ยนและพัฒนาแนวคิด และวิสัยทัศน์ร่วมกัน 3) Multi-Purpose Space เป็นพื้นที่สำหรับทำ Workshop และกำลังจะติดตั้งอุปกรณ์ดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวก และเติมเต็มการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมขับเคลื่อนสังคมธุรกิจสอดรับกับยุคสมัยในปัจจุบัน

157483432582

นอกจากนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้สนับสนุนเพิ่มเติมในส่วนของการนำเครื่อง Double A Fastprint มาอำนวยความสะดวกให้นักศึกษาสามารถทำงานและพรินต์เอกสารต่างๆ ได้ด้วยตนเองผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

157483432595

นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดั๊บเบิ้ล เอ เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างทรัพยากรคนรุ่นใหม่ในสังคมไทยให้เท่าทันสังคมโลกยุคดิจิทัล เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้ให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในการสร้าง UTCC Co-working Space เพื่อเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการสร้างสรรค์ไอเดียทางธุรกิจปั้นนักธุรกิจให้เป็นสตาร์ทอัพจากคนรุ่นใหม่

157483432557_1

โดยชูกลยุทธ์นวัตกรรมมาขับเคลื่อนสังคมธุรกิจ ซึ่งจะมีจุดเด่นสำคัญ คือ มีคณาจารย์มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมาช่วยเป็นเมนเทอร์
ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดแก่นักศึกษา และผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่นจะเป็นนักธุรกิจมืออาชีพ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

157483432557

“ดั๊บเบิ้ล เอ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการจุดประกายให้เกิด UTCC Co-working Space ในมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และร่วมส่งเสริมให้นักศึกษา ผู้ประกอบการ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้นำนวัตกรรมมาสร้างสรรค์ไอเดียทางธุรกิจขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ก้าวไกลความสำเร็จของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จะเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญต่อการชี้ชะตาประเทศในอนาคต” นายโยธิน กล่าว